assignment
บันทึกกิจกรรม
การเรียนรู้ ณ สถานประกอบการที่เป็นแบบอย่าง21 สิงหาคม 2565
21
สิงหาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

การเรียนรู้การทำงานในด้าน Digital Content Marketing ทั้งการกำหนดกลยุทธ์ จัดการทำแคมเปญโฆษณา และทำการตลาดด้วยคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และสร้างสรรค์ Graphics & Content Designer การสร้างสรรค์ และออกแบบคอนเทนต์ให้ตรงตามโจทย์ และเหมาะสมกับช่องทางในสื่อดิจิทัล

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ผู้เรียนได้ศึกษาเทคนิคกับ Content Creator ของบริษัท ในการถ่ายวีดีโอและตัดต่อคลิปให้มีความสนุก และ น่าสนใจ การคิดและนำเสนอเนื้อหาใหม่ๆ ในการสื่อสารข่าวสาร โปรโมชั่น และโปรดักซ์ของบริษัท แลหาโปรโมชั่นที่น่าสนใจตามห้างสรรพสินค้า หรือ งานต่างๆ เพื่อทำคอนเทนต์ การถ่ายภาพหรือวีดีโอสั้นในแต่ละคอนเทนต์ สำหรับใช้บน Tiktok,IG,FB ทำสคริปท์ มีมุมมอง มีความคิดสร้างสรรค์ล้นเปี่ยม และพร้อมจะชาเลนจ์โจทย์ใหม่ๆ การสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ไม่จำกัดรูปแบบทั้ง จัดการงานที่ได้รับมอบหมายให้ตรงตามกำหนดเวลา

กราฟิกและแอนิเมชันสำหรับงานดิจิทัลคอนเทนต์ 1-27 สิงหาคม 2565
7
สิงหาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

เรียนรู้การใช้เทคนิคและลูกเล่นต่างๆ ในการทำ Motion Graphic เทคนิคการจัดการเสียง แสง และมุมกล้อง ขั้นตอนการทำ Post Production การจัดเรียงภาพ การใส่เสียงประกอบ การปรับแต่งสี ขั้นตอนการผลิตสื่อ / เริ่มการเล่าเรื่องแบบไหน / ถ่ายภาพอย่างไร / ใช้เสียงและสถานที่ใดมาเป็นองค์ประกอบ ในการผลิต การส่งเสริมใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ วิธีการเขียนคอนเทนต์สำหรับสื่อออนไลน์ แนวทางการส่งเสริม Digital Content นวัตกรรมและเทรนด์การผลิต Digital Content และประเด็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

การสร้างเนื้อหาที่มีส่วนร่วมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดโซเชียลมีเดีย ด้วยเนื้อหาที่เหมาะสม สามารถมีส่วนร่วมกับผู้ชมของ สร้างแบรนด์ของ และรับผู้ติดตามใหม่ๆ และจะช่วยให้โดดเด่น

  1. โพสต์เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเลือกสร้างเนื้อหาบนแพลตฟอร์มใด ทางเดียวที่จะอยู่รอดได้ คือ ต้องมีความสม่ำเสมอ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้สร้างเนื้อหาเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงต้องแน่ใจว่าจะอยู่ในใจผู้บริโภคเนื้อหาของได้เสมอ ขอแนะนำให้วางแผนกำหนดการเนื้อหาของ ซึ่งอาจรวมถึงวัน เวลา และประเภทของเนื้อหาที่ต้องการโพสต์พร้อมกับการจัดการโซเชียลมีเดียที่จะโพสต์ สามารถทำได้บนกระดาษหรือจะดีกว่าถ้าใช้เครื่องมือตั้งเวลาโซเชียลมีเดียที่มีอยู่ของแต่ละแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Creator Studio, Tweekdeck และ Socailbee เป็นต้น หากจริงจังกับธุรกิจของและต้องการเป็นมืออาชีพ การสร้างกำหนดการของการเผยแพร่เนื้อหาตลอดจนลักษณะของเนื้อหา ทั้ง Content Plan และ Content Pillar ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสร้างความโดดเด่นให้แก่ธุรกิจของ

  2. ใช้ภาพสต็อกและวิดีโอภาพดี เนื้อหาใด ๆ ก็ตามที่ไม่มีรูปภาพหรือวิดีโอที่ภาพดี จะอยากคลิกต่อไปที่โปรไฟล์ของเพจ เช่นเดียวกันกับเนื้อหาของ ผู้คนมักจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาที่มาพร้อมกับรูปภาพหรือวิดีโอ เนื่องจากภาพมีผลกระทบต่อจิตใจของผู้คน ดังนั้นควรเลือกรูปภาพ และวิดีโอสต็อกภาพดีที่มีให้เลือกทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปสร้างเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อหาภาพดีของอยู่เสมอ

  3. ใช้เครื่องมือช่วยในการสร้างสรรค์งาน ไม่ว่าจะสร้างเนื้อหาประเภทใด ไม่ว่าจะเป็นโพสต์บน Instagram Facebook Reels หรือวิดีโอ Youtube สิ่งสำคัญคือ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยในการ สร้าง วางแผน แก้ไข บันทึก และแบ่งปันงานของ หากเป็นคนที่สร้างสรรค์กราฟิก สามารถใช้ Canva, Photoshop, Visme หรือ Adobe Spark สำหรับการแก้ไขและการปรับสีวิดีโอของ สามารถใช้ Adobe After Effectcs ในแล็ปท็อปและโปรแกรมแก้ไข VN, Kine master สำหรับโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถ ดูวิดีโอ Youtube หรือซื้อหลักสูตรเพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานและเริ่มต้นใช้งานเครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ได้ไม่ยาก

  4. อัพเดทตัวเองด้วยเทรนด์ สิ่งเดียวที่คงที่ในโลกของโซเชียลมีเดีย คือ การเปลี่ยนแปลง และ การเปลี่ยนแปลง หมายถึงเทรนด์ใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้นได้ทุกวันตลอดเวลา เพื่อความอยู่รอดบนเส้นทางสายคอนเทนต์ ต้องอัปเดตตัวเองด้วยเทรนด์และนำเสนอเนื้อหาตามนั้น แต่คำถามที่เกิดขึ้นคือ จะติดตามเทรนด์ได้อย่างไร? ไม่ยากหรอก แค่ติดตามเปิดรับเนื้อหาหลากหลายที่เกี่ยวข้องจาก ผู้สร้างเนื้อหาที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ลองเข้าไปเยี่ยมชมโซเชียลมีเดียของพวกเขา หรือดูการสัมภาษณ์ของพวกเขา ซึ่งจะช่วยให้ทราบถึงแนวโน้มล่าสุดและแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น และเห็นได้ว่าเนื้อหาประเภทใดที่พวกเขากำลังสร้างหรือให้ความสนใจ เพื่อที่จะสามารถนำมาปรับใช้ในแบบของเองในการสร้างการมีส่วนร่วม

  5. รักษาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ต้องสังเกตเห็นสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่ผู้คนชอบติดตาม เพราะนี่คือสิ่งที่ช่วยสร้างความแตกต่างจากผู้สร้างเนื้อหารายอื่นๆ ต้องพัฒนาสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเองและออกแบบคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์ อาจเป็นอะไรก็ได้ เช่น การออกแบบโพสต์ การใช้ข้อความ ภาพขนาดย่อของวิดีโอ บทนำ หรือส่วนท้ายของคอนเทนต์ อะไรก็ได้ที่ทำให้ไม่เหมือนใคร ดังนั้นให้ใช้เวลาวิเคราะห์โปรไฟล์ของและมองหาปัจจัยต่างๆ ที่สามารถใช้เพื่อแสดงโปรไฟล์ของในแบบที่ไม่เหมือนใคร

6.ใช้การเล่าเรื่องเพื่อสร้างจุดเชื่อมต่อ ทุกคนชอบที่จะฟังเรื่องราว มันคือสิ่งที่ช่วยดึงดูดผู้ชมได้ดีเสมอ ผู้สร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมทุกคนเป็นนักเล่าเรื่อง และหากต้องการให้คนอื่นฟัง ต้องเชี่ยวชาญในศิลปะการเล่าเรื่อง หากประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวผู้คนผ่านเรื่องราวของ จะสามารถขายผลิตภัณฑ์และบริการได้ง่ายขึ้น เพราะความรู้สึกและประสบการณ์ส่งผลต่อการตัดสินใจได้สูง ยังสามารถขอให้ผู้ชมแบ่งปันเรื่องราวและคำวิจารณ์ของพวกเขา ซึ่งจะช่วยในการทำการตลาดบัญชีของได้อย่างง่ายดาย

  1. สร้างเนื้อหาที่สั้นและไม่ซ้ำใคร ไม่มีใครมีเวลามากมายในการอ่านย่อหน้ายาวๆ หรือดูวิดีโอเต็มๆ  ทุกคนกำลังมองหาเนื้อหาที่รวดเร็วและมีส่วนร่วม เพื่อการบริโภค ต้องมีความเฉพาะเจาะจงมากเกี่ยวกับระยะเวลาและภาพของเนื้อหา เนื่องจากช่วงความสนใจของผู้บริโภคลดลงทุกวัน ลองคิดหาวิธีนำเสนอเนื้อหาที่ดีที่สุดในเวลาไม่นาน เลือกเฉพาะคำที่เกี่ยวข้องและใส่ลงในเนื้อหาของด้วยวิธีที่น่าสนใจ สามารถใช้เครื่องมือกราฟิกออนไลน์ เช่น Canva เพื่อสร้างเนื้อหากราฟิกที่น่าสนใจยิ่งขึ้น สิ่งเดียวคือควรจะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้

  2. สร้างเนื้อหาที่มีคำกระตุ้นการตัดสินใจ อย่าเพิ่งสร้างและโพสต์เนื้อหาออกไป หากยังไม่มีคำกระตุ้นการตัดสินใจในโพสต์ของ หากต้องการให้ผู้คนดำเนินการหลังจากอ่านเนื้อหาของ อย่าลืมใส่คำกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to Action) ที่ชัดเจน คำกระตุ้นการตัดสินใจที่เขียนมาอย่างดีจะมีประสิทธิภาพมากในการทำให้ผู้คนก้าวไปสู่ขั้นต่อไป ขอให้ผู้คนแบ่งปันมุมมอง เรื่องราว และส่วนของเนื้อหาที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อได้ ซึ่งจะช่วยสร้างการเชื่อมต่อกับผู้ชมของและพวกเขาจะแบ่งปันเนื้อหาของกับผู้อื่นต่อซึ่งจะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นได้อีก


    ตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียในแต่ละแพลตฟอร์ม เมื่อความคิดเห็นและการแชร์เป็นไปอย่างราบรื่น ก็ถึงเวลาที่จะเปิดเผยตัวเลขเพื่อพิสูจน์ว่าทำได้ดีเพียงใด การวิเคราะห์โซเชียลมีเดียที่ดี มีความสำคัญต่อการวัดความสำเร็จของแบรนด์ของ โชคดีที่มีเครื่องมือมากมายที่จะแสดงภาพรวมทั่วไปหรือดูสถิติโซเชียลต่างๆ ของในที่เดียว ตลอดจนเครื่องคำนวณสำหรับ ROI หรืออัตราการมีส่วนร่วม ก็มีประโยชน์ในการพิจารณาเช่นกัน

ยิ่งไปกว่านั้น สามารถวัดประสิทธิภาพจากแพลตฟอร์มโซเชียลของได้โดยตรง โดยเมตริกหรือตัวชี้วีดเฉพาะจะแตกต่างกันไปตามแต่ละ แพลตฟอร์ม  สามารถเข้าถึงข้อมูลทางสังคมที่สำคัญบางอย่างได้ นี่คือสิ่งที่อาจคาดหวังจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมบางประเภทโดยตรง : ต่อไปนี้คือรูปแบบของการวัดการมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดียในแต่ละแพลตฟอร์ม

Facebook Facebook Analytics มีแดชบอร์ดที่ครอบคลุมและแข็งแกร่งมาก พร้อมด้วยวิธีมากมายในการติดตามการมีส่วนร่วมของผู้ชมของ สามารถติดตามตัวชี้วัดต่อไปนี้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมนี้

การเข้าถึงและการมีส่วนร่วม (Reach and Engagement)  : มีกี่คนที่เห็นโพสต์ของ ใครมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา? โพสต์ใดที่ผู้คนซ่อน? มีคนรายงานโพสต์ใด ๆ ว่าเป็นสแปมหรือไม่?

การกระทำ (Actions)  : ผู้คนทำอะไรกับเพจของ? มีกี่คนที่คลิกปุ่มคำกระตุ้นการตัดสินใจของ มีคนคลิกผ่านเว็บไซต์ของกี่คน?

ผู้คน (People)  : ข้อมูลประชากรของผู้ที่เข้าชมเพจของเป็นอย่างไร (สามารถเจาะลึกในหัวข้อนี้ด้วย Audience Insights) ผู้คนเข้าชมเพจของเมื่อใด ผู้คนหาเพจของเจอได้อย่างไร?

จำนวนการดู (Views)  : มีคนดูเพจของกี่คน? พวกเขากำลังดูส่วนใด

โพสต์ (Posts) : โพสต์ของมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป?

Twitter ในทำนองเดียวกัน Twitter มีชุดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวัดเมตริกของ สามารถติดตามตัวชี้วัดต่อไปนี้บน Twitter

อัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) : ได้รับการมีส่วนร่วมและการแสดงผลกี่ครั้ง?

เปอร์เซ็นต์การเข้าถึง (Reach Percentage) : มีผู้ติดตามกี่คนที่เห็นทวีตหนึ่งๆ

การคลิกลิงก์ (Link clicks) : ลิงก์ที่โพสต์ได้รับการคลิกผ่านกี่ครั้ง

เวลาโพสต์ที่เหมาะสมที่สุด (Optimal posting time) : ผู้ชมของมักจะออนไลน์เมื่อใด พวกเขาอาศัยอยู่ในเขตเวลาใด

Instagram หากมีโปรไฟล์ธุรกิจ จะสามารถเข้าถึง Instagram Insights เพื่อติดตามการมีส่วนร่วมใน Instagram ของได้ แดชบอร์ดนี้ให้เมตริกการมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดียที่สำคัญทั้งหมดที่ต้องการสำหรับแคมเปญของ มันอาจไม่แข็งแกร่งมาก แต่ก็ควรค่าแก่การตรวจสอบ สามารถติดตามตัวชี้วัดต่อไปนี้บน Instagram Insights

ข้อมูลประชากรของผู้ชม (Audience demographics) : พวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหน พวกเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? อายุเท่าไร?

เวลาที่เหมาะสมที่สุด (Optimal times) : ผู้ติดตามของออนไลน์เมื่อใด พวกเขาใช้งานในวันและเวลาใด?

เนื้อหายอดนิยม (Popular Content) : โพสต์อะไรที่ได้หัวใจ? กระทู้ไหนมีการแสดงความคิดเห็น?

Tiktok การเข้าร่วมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ๆ เช่น Tiktok ในตอนแรกอาจเป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามนักการตลาดรู้ดีว่า Tiktok เป็นโซเชียลมีเดียที่มาแรงมากในปัจจุบันสามารถหยุดความเครียดและเริ่มเรียนรู้การเคลื่อนไหวของเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน Tiktok  มีข้อมูลเชิงลึก ให้สำหรับบัญชีมืออาชีพ ด้วยตัวชี้วัดต่อไปนี้ :

Audience demographics: การเติบโตของผู้ติดตามของฉันเป็นอย่างไร พวกเขาดูและฟังอะไร พวกเขาอาศัยอยู่ที่ไหนและพวกเขาระบุได้อย่างไร?

Profile views : การเข้าชมเพิ่มขึ้นเมื่อใด

Content stats : วิดีโอใดที่มีคนดูมากที่สุดในสัปดาห์นี้ เวลาเล่นเฉลี่ยนานแค่ไหน? วิดีโอได้รับความคิดเห็น ไลค์ และแชร์กี่ครั้ง

กราฟิกและแอนิเมชันสำหรับงานดิจิทัลคอนเทนต์131 กรกฎาคม 2565
31
กรกฎาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

การทำคอนเทนต์ประเภทการเขียน (Text Based) การเขียนบทความลงเว็บไซต์หรือบล็อก การเขียน Copy Writing หรือ Caption การเขียนรีวิว
การผลิต E-book เป็นต้น
การทำคอนเทนต์ประเภทรูปภาพ (Image Based) การทำ Infographic การทำ 3D การทำ Illustrator
หรือแม้แต่ Meme เป็นต้น การทำคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ (Video Based)
การอัด Vlog
การทำวิดีโอ How-to การทำ Live Stream การจัดทำ Webinar เป็นต้น

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

แอปพลิเคชันหรือเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวก ในการทำงานนั่นเอง โดยจะแบ่งออกเป็น Social Media, Design, และ SEO

สำหรับ Social Media นั้นเหล่า Content Creator ควรรู้จักการทำงานและใช้งานทุกแพลตฟอร์มให้ ชำนาญ รู้จักข้อดีข้อเสียของแต่ละช่องทาง Social Media และสามารถใช้งานได้อย่างมีประโยชน์ และมีประสิทธิภาพต่อธุรกิจที่สุด

การฝึกฝนเครื่องชื่อช่วยการสร้างสรรค์ผลงาน  หัดใช้งาน โปรแกรมทำกราฟิกอย่าง Adobe Photoshop หรือ Illustrator รวมถึงโปรแกรมตัดต่ออย่าง Adobe Premiere Pro ในการทำคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ทุกวันนี้คือ SEO หรือ Search Engine Optimization
สำหรับการวางแผนคอนเทนต์และวิเคราะห์ผลลัพธ์ของตัวคอนเทนต์ที่ได้ เผยแพร่ออกไปบน Platform อย่าง Google หรือ Youtube เช่น Google Keyword Planner, KWFinder, Google Search Console, Google Data Studio, และ Google Analytics เป็นต้น

การวางแผนและกลยุทธ์สร้าง ดิจิทัลคอนเทนต์ 324 กรกฎาคม 2565
24
กรกฎาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

ตรวจสอบเครื่องมือของ วัตถุประสงค์ : สำรวจภาพรวมของเครื่องมือ เทคโนโลยี และทรัพยากรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ในการวางแผนการตลาดคอนเทนต์อาจต้องใช้เครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจำนวนมาก ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากแต่เครื่องมือเหล่านี้ก็มีความซับซ้อนเล็กน้อย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะตรวจสอบหาสิ่งที่ทับซ้อนกันของเครื่องมือที่มีอยู่ ก่อนที่จะสร้างกลยุทธ์ใหม่ด้วยเหตุผลหลายประการ

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

การวางแผนการตลาดคอนเทนต์อาจต้องใช้เครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจำนวนมาก ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มีประโยชน์อย่างมากแต่เครื่องมือเหล่านี้ก็มีความซับซ้อนเล็กน้อย จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะตรวจสอบหาสิ่งที่ทับซ้อนกันของเครื่องมือที่มีอยู่ ก่อนที่จะสร้างกลยุทธ์ใหม่ด้วยเหตุผลหลายประการ

พบโอกาสในการลดต้นทุนหรือรวมเครื่องมือเข้าด้วยกัน (เช่น จ่ายเงินสำหรับสิ่งที่ไม่ได้ใช้ หรือใช้สิ่งหนึ่งสำหรับงานที่อย่างอื่นสามารถทำได้) สามารถระบุความเป็นเจ้าของ ติดตามสถานะการสมัคร ฯลฯ เพื่อให้แน่ใจว่าทีมของมีสิ่งที่จำเป็นเสมอ สามารถระบุสิ่งที่ต้องการได้ (เช่น หากวางแผนที่จะสร้างวิดีโอเพิ่มเติมในอนาคต จะต้องใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการตัด แก้ไข) How to Do It


ทำการแบ่งหมวดหมู่เครื่องมือออกมาเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้เห็นถึงรายการเครื่องมือที่ใช้สร้าง ควบคุม และกระจายคอนเทนต์ของไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งหมด เช่น

การวิเคราะห์เว็บไซต์ แพลตฟอร์มการตั้งเวลาและการเผยแพร่คอนเทนต์ Blog แพลตฟอร์มและเครื่องมือโซเชียลมีเดีย ระบบการจัดการคอนเทนต์ การรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ เครื่องมือ Social listening เครื่องมือ SEO เครื่องมือออกแบบและสร้างแผนภูมิ Marketing automation Email marketing ซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ แพลตฟอร์มและซอฟท์แวร์ Paid media ตัวสร้างหน้า Landing Page หลังจากที่ทำตามทั้งสามขั้นตอนข้างต้น จะช่วยให้ได้ทบทวนถึงเป้าหมายที่แท้จริงที่ต้องการที่จะบรรลุ คอนเทนต์แบบไหนที่จะสร้าง สร้างไปเพื่อใคร และสุดท้ายเครื่องมือแบบไหนที่ต้องการ หรือสามารถลดต้นทุนในการซื้อเครื่องมือต่างๆ ลง

การวางแผนและกลยุทธ์สร้าง ดิจิทัลคอนเทนต์ 217 กรกฎาคม 2565
17
กรกฎาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

ทำความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของเป็นใคร พวกเขาสนใจอะไร และจะตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างไร

ไอเดียการหา Unique Selling Point ให้ได้เปรียบคู่แข่งในตลาด

Unique Selling Points (USP) คือ ประโยชน์ที่สินค้าและบริการสามารถมอบให้กับผู้บริโภคได้ และมีความโดดเด่นมากกว่าคู่แข่ง หรือก็คือการกำหนดข้อแตกต่างของสินค้าและบริการที่ต่างจากคู่แข่งขัน หรือไม่มีในตลาด เช่น คุณภาพ ราคา วัตถุดิบ เป็นต้น
วิธีการค้นหา Unique Selling Points (USP) การทดสอบและปรับแต่ง Unique Selling Points (USP) วิธีการสื่อสาร Unique Selling Points (USP) ข้อควรระวังในการสร้าง Unique Selling Points (USP) ตัวอย่าง Unique Selling Points (USP)

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

การทำ USP สามารถนำไปพัฒนากลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำเว็บไซต์ โลโก้ หรือแคมเปญโฆษณาบนออนไลน์
มีความชัดเจนและมุ่งเน้นการนำเสนอจุดขายให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำ
สามารถสื่อสาร USP  มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือคู่แข่ง

การวางแผนและกลยุทธ์สร้าง ดิจิทัลคอนเทนต์ 110 กรกฎาคม 2565
10
กรกฎาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

ผู้ข้าอบรมมีความรู้ และเพิ่มพูนความสามารถใช้เครื่องมือของ  Platform  ได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการทำธุรกิจออนไลน์ได้ฝึกฝนการใช้เครื่องมือของ  Platform  ผ่านการทำ Workshopแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ระหว่างวิทยากรและผู้พ้าอบรมด้วยกันเอง 1. Understanding  Platform  Pages 2. Audience Targeting (Workshop) - Hero Content - กฎเหล็ก 20% Text - Broad Audience Targeting - How to Set Target Audience - How to Select Placement - A/B Testing 3. Advanced Audience Targeting (Workshop) - Custom Audience Customize Report - Lookalike Audience Platform  Pixel Installation 4. Platform  advertising 5. Platform  Reporting and Evaluating

การเริ่มต้นที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว ฉะนั้นการวางกลยุทธ์ด้านการทำคอนเทนต์ต้องมาจากวัตถุประสงค์ทางการตลาดที่ชัดเจน อะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และอันไหนที่ไม่จำเป็น จะได้เลือกทำคอนเทนต์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ตัวอย่างเช่น

เป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขาย เป้าหมายเพื่อสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ เป้าหมายเพื่อสร้างให้เกิดการรับรู้ในธุรกิจ เป้าหมายในการทำ SEO ให้ติดหน้าหนึ่งของ Google เป้าหมายเพื่อลดรายจ่ายด้านการตลาด เป้าหมายเพื่อการสร้าง Social Engagement ตั้งตัวชี้วัดหรือ KPI ที่ชัดเจน

ทุกการทำคอนเทนต์ควรมีการวัดผลได้ เพราะมันจะช่วยให้เราปรับกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง และไม่เสียงบประมาณไปอย่างเสียเปล่า

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

การกำหนดเป้าหมายที่วัดผลได้จะช่วยให้มีภาพที่ชัดเจนว่าต้องรับผิดชอบอะไร และมุ่งไปในทิศทางใดเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย ซึ่งจะต้องเข้าใจอย่างชัดเจนว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร มองเห็นเป็นภาพเดียวกัน เพราะว่าทุกการตัดสินใจและการทำคอนเทนต์ตั้งแต่การเขียนคำโฆษณา การออกแบบ ไปจนถึงการเผยแพร่คอนเทนต์

การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้เราสามารถทำคอนเทนต์ที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ได้อย่างชัดเจนทั้งอายุ เพศ ความสนใจ รายได้ การศึกษา ซึ่งข้อมูลนั้นหาได้ทั้งจากการทำการสำรวจภายในบริษัทของเราเอง และอีกกรณีหนึ่งหากเรามีเว็บไซต์หรือโซเชียล มีเดียแล้ว เราจะมีข้อมูลของผู้ที่เยี่ยมชมเว็บไซต์และผู้ติดตามโซเชียล มีเดีย

การเขียนคอนเทนต์บน Platform 23 กรกฎาคม 2565
3
กรกฎาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

เทคนิคการ Match SEO Keyword Analysis ให้ตรงกับคอนเทนต์ที่ไม่ได้เน้นแค่ความคิดสร้างสรรค์ แต่ส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายให้กับธุรกิจ วิธีการสร้างฐานลูกค้าเชิงคุณภาพ (Quality Customer) โดยใช้กลยุทธ์ Digital Content Marketing โดยปราศจาก Paid Media หรือการซื้อโฆษณา การสร้าง Content Funnel เพื่อสร้างยอดขาย ให้ตรงกับเป้าหมายในยุคดิจิทัลที่วางไว้ และ เพื่อให้ทีมการตลาดของคุณเดินทางถูกทางประหยัดเวลา และ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลองผิดลองถูก

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

เทคนิคการ Match SEO Keyword Analysis ให้ตรงกับคอนเทนต์ที่ไม่ได้เน้นแค่ความคิดสร้างสรรค์ แต่ส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายให้กับธุรกิจ วิธีการสร้างฐานลูกค้าเชิงคุณภาพ (Quality Customer) โดยใช้กลยุทธ์ Digital Content Marketing โดยปราศจาก Paid Media หรือการซื้อโฆษณา การสร้าง Content Funnel เพื่อสร้างยอดขาย ให้ตรงกับเป้าหมายในยุคดิจิทัลที่วางไว้ และ เพื่อให้ทีมการตลาดของคุณเดินทางถูกทางประหยัดเวลา และ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลองผิดลองถูก เรียนรู้เจาะลึกถึงเทคนิคต่าง ๆ ในการสร้างคอนเทนต์ เพื่อเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีรายละเอียดหัวข้อดังต่อไปนี้
 Content Marketing Funnel : MOFU โครงสร้างคอนเทนต์ที่จะทำให้แบรนด์ของคุณน่าเชื่อถือ และน่าดึงดูด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายยินดีที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลของตนเองกับ ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากแบรนด์  Content Marketing Funnel : BOFU วิธีการเขียนคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นยอดขายและเพิ่มโอกาสการปิดการขายบนโลกออนไลน์
 Content Marketing Funnel : ROFU การวางแผนการทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์การเดินทางในโลกออนไลน์ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่องทาง และกระตุ้นให้การเกิดการซื้อซ้ำ  Content Marketing Matrix เทคนิคการเพิ่มมูลค่าให้กับคอนเทนต์เพื่อกลายเป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อซ้ำบนโลกออนไลน์  Content Marketing Strategies แนวทางการวางกลยุทธ์การทำคอนเทนต์และตัวชี้วัดให้เหมาะสมและตอบโจทย์เป้าหมายการทำการตลาด

การเขียนคอนเทนต์บน Platform 126 มิถุนายน 2565
26
มิถุนายน 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

เรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ ในการทำ Content Marketing ผ่านการเรียนการสอนแบบ Virtual Course (คอร์สสด แบบออนไลน์ เรียนผ่านโปรแกรม Zoom) ในหัวข้อต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เรียนรู้วิธีการสร้าง Customer Avatar ที่สามารถนำไปต่อยอดการวางกลยุทธ์ Content Marketing และ เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพสำหรับธุรกิจคุณ เทคนิคออกแบบ Key Storyline กุญแจสำคัญในการเล่าเส้นเรื่องของธุรกิจที่ชัดเจน และ แตกต่างจากคู่แข่งผ่านกลยุทธ์ Content Marketing เทคนิคในการเขียนคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์สำหรับในแต่ละช่วงของการเดินทางของลูกค้าตั้งแต่ในระดับ TOFU, MOFU และ BOFU โดยเริ่มจากการเริ่มต้นสร้างการรับรู้แบรนด์ การเปลี่ยนจากกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า ไปจนถึงกระบวนการที่ลูกค้าซื้อซํ้า และ เกิดการบอกต่อ

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

เรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ ในการทำ Content Marketing ผ่านการเรียนการสอนแบบ Virtual Course (คอร์สสด แบบออนไลน์ เรียนผ่านโปรแกรม Zoom) ในหัวข้อต่าง ๆ ดังต่อไปนี้  The Matter of Content Marketing เข้าใจความสำคัญของคอนเทนต์ที่เป็นมากกว่าเครื่องมือ และวิธีการนำคอนเทนต์ที่มีอยู่ไปต่อยอดให้กับธุรกิจของคุณบนโลกดิจิทัล  Content Marketing Funnel 4 ขั้นตอนการทำการตลาดเพื่อเปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นลูกค้าผ่าน CONTENT MARKETING
 Customer Analysis เทคนิคการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายเชิงลึกในโลกดิจิทัล เพื่อวางแผนกลยุทธ์คอนเทนต์และทำให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกต่อธุรกิจ
 Power of Headline วิธีการเขียน HEADLINE เพื่อดึงดูดลูกค้าคุณภาพบนโลกออนไลน์
 Martech Tool for Content Marketing รวมเครื่องมือในการสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่าง สร้างสรรค์ และตอบโจทย์ลูกค้าบนโลกดิจิทัล
 Content Marketing Funnel :เทคนิคการสร้างคอนเทนต์สำหรับการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และเข้าสู่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการ

วิเคราะห์พฤติกรรมผู้รับสารในยุคดิจิทัลและปฏิบัติการ19 มิถุนายน 2565
19
มิถุนายน 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

สอนให้ผู้เรียนเข้าใจแพลตฟอร์มในการลงคอนเทนต์และกลุ่มเป้าหมายของตัวเอง คำนึงเสมอว่าคอนเทนต์ประเภทใด ลักษณะแบบไหน เหมาะกับแพลตฟอร์มใดเป็นพิเศษ และกลุ่มเป้าหลายลักษณะไหนที่ใช้แพลตฟอร์มนั้น ๆ

1 ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในแนวคิดและทฤษฎีการสื่อสารที่ใช้ในการวิเคราะห์ ผู้รับสาร 2 ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างทางสังคม ทางจิตวิทยา การเมืองวัฒนธรรม และลักษณะประชากรศาสตร์ ในการวิเคราะห์ผู้รับสาร 3 ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ผู้รับสาร เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการ สื่อสารได้

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

มีความสามารถเชิงการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ และคิดสร้างสรรค์ สามารถนำความรู้ ด้านการสื่อสารไปประยุกต์ใช้ เพื่อการประกอบอาชีพ และสามารถปรับตัวสร้างงานสร้างอาชีพได้อย่าง เหมาะสม
  สามารถบูรณาการความรู้ หลักการของศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หลักการบริหารจัดการ  หลักจิตวิทยา หลักการใช้ภาษา หลักศิลปะ หลักกฎหมายและจริยธรรม นำมาประยุกต์ใช้เป็น พื้นฐานในการประกอบอาชีพได้

การสร้างบุคลิกภาพแบรนด์ด้วย Content 212 มิถุนายน 2565
12
มิถุนายน 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

การสร้างบุคลิกภาพแบรนด์ด้วย Content 2 การเสริมสร้างะ Content Creation Skill หรือทักษะการสร้างและผลิตคอนเทนต์ ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการ ทำงานในสายอาชีพนี้ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการเขียน ทักษะการตัดต่อหรือทำกราฟิกต่างๆ
Programs and Tools Skill หรือทักษะในการใช้โปรแกรมและเครื่องมือในการทำงาน โดยทักษะนี้จะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญสายต่างๆ เช่น ทักษะการใช้โปรแกรมตัดต่อ อย่าง Adobe Premiere Pro หรือ Final Cut Pro หรือทักษะในการใช้โปรแกรมทำกราฟิก อย่าง Photoshop หรือ Illustrator เป็นต้น ซึ่งตรงนี้รวมไปถึงการใช้เครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยในการทำ Content Marketing ด้วย Research Skill

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

การสร้างบุคลิกภาพแบรนด์ด้วย Content 2

การสร้างบุคลิกภาพแบรนด์ด้วย Content 15 มิถุนายน 2565
5
มิถุนายน 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

เป็นการเรียนรู้ผ่านทฤษฎี (Theory) ประกอบกับตัวอย่างและกรณีศึกษา (Case Study) ที่เกิดขึ้น รวมถึงการให้ผู้เข้าอบรมได้ลงมือปฏิบัติกับกิจกรรม Workshop เพื่อส่งเสริมการทำงานและการเร่งกระบวนการสร้างไอเดีย ให้ผู้เข้าอบรมรู้และเข้าใจขั้นตอนการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยให้ 1. ศึกษาจากสินค้าของผู้เข้าอบรมท่านอื่นและร่วมวิเคราะห์ คู่แข่ง รวมถึงจุดแข็งของแบรนด์ 2. ออกแบบโลโก้และเทมเพลตสำหรับธุรกิจ
3. การสื่อสารที่ตนเองจะใช้ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ชมทางโฆษณาและบนโซเชียลมีเดีย
4. รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอะไร 5. มีการติดตาม ตรวจสอบ

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

ได้มีโอกาสฝึกการคิดอย่างสร้างสรรค์แบบมีกระบวนการเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ ขยายมุมมองใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล ได้มีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านการวางแผน การวางกลยุทธ์ใหม่ๆและการใช้เครื่องมือที่เกี่ยวกับการตลาดดิจิทัลได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับวิทยากรและผู้เข้าอบรมสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจหรือหน่วยงานของตัวเองได้

  1. ศึกษาผู้ชม คู่แข่ง รวมถึงจุดแข็งของแบรนด์
    ขั้นตอนแรกในการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) คือการศึกษาตลาด ซึ่งการจะทำสิ่งนี้ได้ ตนเองต้องทำความเข้าใจห้าองค์ประกอบเหล่านี้ก่อน นั่นก็คือ Audience
    2 .การวิเคราะห์ SWOT สิ่งสุดท้ายคือการวิเคราะห์ SWOT อันเป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจแบรนด์ ถึงจุดอ่อน จุดแข็ง ผู้เข้าอบรมสามารถค้นหาคาแรคเตอร์ที่ต้องการนำเสนอในแบรนด์ได้ โดย SWOT ที่พูดถึงมีความหมายดังต่อไปนี้ Strengths (จุดแข็ง) : จุดเด่นหรือจุดแข็ง ของแบรนด์เองที่ทำให้ได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เอกลักษณ์ที่ไม่มีคู่แข่งเจ้าใดสามารถเลียนแบบได้ Weaknesses (จุดอ่อน) : จุดด้อย หรือจุดอ่อนของแบรนด์ ที่จะต้องหาวิธีในการแก้ไข Opportunities (โอกาส) : โอกาสจากสภาพแวดล้อมภายนอกของบริษัทเอื้อประโยชน์หรือส่งเสริมการดำเนินงานขององค์กร Threats (อุปสรรค) : เป็นข้อจำกัดที่เกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องและพยายามขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น 3.ผู้เข้าอบรมสามารถสร้างภาพลักษณ์หรือบุคคลิกภาพของแบรนด์ได้โดยใช้รูปแบบ สี และภาพ เพื่อแสดงความเป็นแบรนด์ผู้เข้าอบรมออกมา ซึ่งรูปแบบ สี และภาพเหล่านั้นจะสัมพันธ์กับโทนหรืออารมณ์ความรู้สึกของแบรนด์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน Branding ของ 4.ผู้เข้าอบรมนั้น ได้นำเสนอสิ่งที่เป็นผู้เข้าอบรมที่สุดออกมาแล้วผ่าน Branding
ทักษะทางสังคมและชีวิตในยุคใหม่29 พฤษภาคม 2565
29
พฤษภาคม 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

เป็นการปูพื้นฐานของกลุ่มอาชีพ Content Creator ให้ผู้เข้าเรียนได้รู้จักว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร ต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง และสำหรับผู้เรียนที่สนใจอยากสานต่อในอาชีพนี้หรืออยากย้ายสายมาทำ Content จะต้องตรียมพร้อมและต้องเริ่มต้นอย่างไรบ้าง

บรรยายทฤษฎีและหลักการ - ด้านทักษะความรู้ในด้าน - ด้านทักษะด้านการปฏิบัติงานด้าน - ด้านทักษะชีวิตและอาชีพระยะเวลา/วิธีการสอน/การวัด/การประเมินผล/การปรับปรุง ในวิชาปฏิบัติให้ทดลองใช้อุปกรณ์จริง - มีการสอบวัดความรู้ก่อนและหลังการอบรม - นำความรู้ที่ได้ไปใช้แก้ปัญหาและ ต่อยอความรู้โดยการทดลองนำชิ้นงานของตนเองมาใช้

1.ปูพื้นฐานและบูรณาการทฤษฎีแห่งการเปลี่ยนแปลง และวิธีการเปลี่ยนแปลง กระบวนทัศน์ การสื่อสารของสื่อที่อยู่รอบตัวในปัจจุบันโดยเรียนรู้จากกลุ่มผู้เรียนผ่านตัวตนของผู้เรียนแต่ละคน ผ่านชิ้นงานในห้องเรียน เพื่อเป็นการทำความรู้จักและปูพื้นฐานให้กลุ่มผู้เรียนที่มีความหลากหลาย 2.เพื่อการพัฒนา กำหนดประเด็นปัญหาของสังคมในปัจจุบัน และการประยุกต์ใช้สร้างสรรค์สื่อ ดิจิทัลเพื่อสร้างมุมมองใหม่ของผู้เรียนผ่านชิ้นงานโดยทำการร่วมกันคิดและวิเคราะห์รูปแบบ คอนเทนต์ในปัจจุบัน 3. ผู้เรียนของตนเองนำเสนอชิ้นงานที่คิดขึ้นโดยอาศัยทฤษฏีและตัวอย่างที่ได้เรียน

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

1.ผู้เรียนได้มีความรู้ความเข้าใจเขี่ยวกับสิ่งที่สามารถนำเสนอผ่านคอนเทนต์ได้และข้อห้ามข้อควรระวัง 2.ผู้เรียนเข้าใจชิ้นงานของตนเองและสามารถหาอัตลักษ์เบื้องต้นตามความเข้าใจได้อย่างถูกต้อง 3.ผุ้เรียนได้ทราบเกี่ยวกับกฏหมายที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอดิจิทัลคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆอย่างถูกต้อง

ผู้สมัครเรียน1 เมษายน 2565
1
เมษายน 2565รายงานจากพื้นที่ โดย ธัญพร ศรีดอกไม้
circle
กิจกรรมที่ปฎิบัติรายละเอียดของการทำกิจกรรมที่ได้ปฎิบัติจริง

-

circle
ผลที่เกิดขึ้นจริงผลผลิต (Output) / ผลลัพธ์ (Outcome) / ผลสรุปที่สำคัญของกิจกรรม

-