นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ (หลักสูตร Non-Degree)
Workshop การคำนวณ ต้นทุน และ จุดคุ้มทุน (Break-even Point) ของผลิตภัณฑ์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการบริหารธุรกิจ การคำนวณต้นทุนและจุดคุ้มทุนช่วยให้ธุรกิจจะเริ่มมีกำไรจากการขายผลิตภัณฑ์ โดยจะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนคงที่, ต้นทุนผันแปร, และราคาขายของผลิตภัณฑ์ เพื่อทำการคำนวณจุดคุ้มทุนที่ชัดเจนและสามารถตั้งเป้าหมายกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการวางแผนและคำนวณจุดคุ้มทุนอย่างรอบคอบจะช่วยให้ตัดสินใจเรื่องการตั้งราคา การเพิ่มหรือลดปริมาณการผลิต และการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Workshop การสร้างเพจในการจำหน่ายสินค้า (Sales Page) เป็นขั้นตอนสำคัญในการทำธุรกิจออนไลน์ โดยเพจนี้จะเป็นเครื่องมือในการแสดงรายละเอียดของสินค้าหรือบริการ รวมถึงการดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อสินค้าโดยวิธีการทำเพจในการจำหน่ายสินค้าสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทั้งการสร้างเว็บไซต์ (Landing Page), การใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook หรือ Instagram และการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
ขั้นตอนการทำเพจในการจำหน่ายสินค้า
1. การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าของคุณว่ามักจะใช้แพลตฟอร์มไหนในการซื้อสินค้าหรือค้นหาข้อมูล:
- เว็บไซต์หรือ Landing Page: หากคุณมีเว็บไซต์ของตัวเอง หรือสร้างหน้า Landing Page ที่มีการออกแบบเฉพาะสำหรับการขายสินค้า
- Facebook: ทำเพจธุรกิจบน Facebook และใช้เครื่องมือเช่น Facebook Shop สำหรับการขายสินค้าบน Facebook
- Instagram: ใช้ Instagram Shop หรือโพสต์ภาพสินค้าพร้อมลิงก์ไปยังการซื้อ
- แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: เช่น Lazada, Shopee, หรือ Shopify ซึ่งสามารถช่วยให้สร้างร้านค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
- เว็บไซต์ WordPress + WooCommerce: ใช้ WordPress ร่วมกับปลั๊กอิน WooCommerce เพื่อสร้างร้านออนไลน์
2. การตั้งชื่อและออกแบบเพจ ควรเลือกชื่อที่สะท้อนถึงธุรกิจหรือสินค้าได้ชัดเจน
- โลโก้และธีม: ออกแบบโลโก้ที่เหมาะสมและการใช้ธีมที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของธุรกิจ เช่น การใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
- คำอธิบายสั้นๆ: ให้คำอธิบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่ขาย หรือข้อความที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาที่เพจ โดยใส่รายละเอียดสินค้าที่ครบถ้วน เช่น ชื่อสินค้า รายละเอียดสินค้า ราคา
การสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เป็นส่วนสำคัญในการขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายทั้งในโลกดิจิทัลและในโลกจริง โดยการผสมผสานกลยุทธ์ออนไลน์และออฟไลน์จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในหลายช่องทาง และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ
1. การสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์
การตลาดออนไลน์เป็นการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งสามารถสร้างความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายได้
2. การสร้างช่องทางการตลาดออฟไลน์
การตลาดออฟไลน์ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าในตลาดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเน้นการโปรโมทสินค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
- การจัดกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing)
การจัดกิจกรรม เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่, งานแสดงสินค้าหรือการจัดโปรโมชั่นในสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน เช่น การให้ลองสินค้าหรือรับของสมนาคุณ
- การโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม (Traditional Media)
โฆษณาทางโทรทัศน์และวิทยุ: ใช้สื่อทีวีหรือวิทยุในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง
- ป้ายโฆษณาและบิลบอร์ด: การใช้ป้ายโฆษณาภายนอก เช่น ป้ายบิลบอร์ดในทำเลที่มีผู้คนผ่านไปมา เช่น หน้าอาคารห้างสรรพสินค้า หรือบนถนน
โฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสาร: สื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นช่องทางที่ดีในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ชอบอ่าน
- การตลาดผ่านผู้ค้าปลีก (Retail Marketing)
การนำผลิตภัณฑ์ไปวางขายในร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและเลือกซื้อ
การจัดโปรโมชั่นพิเศษในร้านค้าหรือการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น “ซื้อ 1 แถม 1” หรือ “ลดราคา”
- การใช้พนักงานขาย (Sales Representatives)
การใช้พนักงานขายที่มีประสบการณ์และทักษะในการเสนอขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าตามความต้องการ การส่งเสริมการขายโดยการติดต่อกับลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ หรือการทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายสินค้ารายอื่น
- การโปรโมทผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีความสัมพันธ์ (Product Placement)
การวางสินค้าหรือบริการในสถานที่ที่มีลูกค้าเข้าถึง เช่น การวางผลิตภัณฑ์ในร้านค้าหรือในกิจกรรมที่มีลูกค้าเข้าร่วม
3. การผสมผสานช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์
การใช้กลยุทธ์ออนไลน์และออฟไลน์ร่วมกันจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั้งในโลกดิจิทัลและในโลกจริง และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
การสร้างการตระหนักรู้: การทำการตลาดออนไลน์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในกลุ่มลูกค้าก่อน จากนั้นทำการตลาดออฟไลน์ เช่น การจัดกิจกรรมหรือการใช้ป้ายโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขาย
การสร้างความภักดีของลูกค้า: การใช้การตลาดออนไลน์ เช่น การส่งอีเมล์หรือโปรโมชันผ่านโซเชียลมีเดีย ร่วมกับการจัดกิจกรรมในร้านหรือการให้ส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์
การเพิ่มช่องทางการจำหน่าย: ใช้การตลาดออนไลน์เพื่อสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์ และนำลูกค้าไปยังช่องทางการจำหน่ายออฟไลน์ เช่น ร้านค้า หรือการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีการชำระเงินที่สะดวก
ในส่วนการสร้างตารางสินค้าเป็นกระบวนการในการออกแบบและสร้างโครงสร้างข้อมูลที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในฐานข้อมูล โดยตารางสินค้าจะถูกออกแบบให้สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าทุกประเภทที่ธุรกิจต้องการจัดเก็บ เช่น ชื่อสินค้า, รหัสสินค้า, ราคา, จำนวนในสต็อก, หมวดหมู่สินค้า, และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อการจัดการสินค้าภายในระบบท โดยตารางสินค้ามักจะเป็นส่วนหนึ่งของฐานข้อมูลที่ใช้ในการ จัดการสินค้า ในระบบ เช่น ระบบการขาย (Point of Sale System), ระบบสต็อกสินค้า, หรือ ระบบการจัดการคลังสินค้า โดยจะทำการบันทึกและจัดการข้อมูลสินค้าในรูปแบบที่สามารถค้นหา, เพิ่ม, แก้ไข, และลบข้อมูลได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการจัด Workshop การคำนวณต้นทุนและจุดคุ้มทุน การสร้างเพจในการจำหน่ายสินค้า
1. ผู้เรียนสามารถการเข้าใจต้นทุนและจุดคุ้มทุน
2. ผู้เรียนสามารถตั้งราคาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ผู้เรียนสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างชัดเจน
4. ผู้เรียนสามารถสร้างเพจในการจำหน่ายสินค้าได้ด้วยตนเอง
5. มีทักษะในการทำการตลาดออนไลน์
6. สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการขาย