แบบการติดตามประเมินผลการดำเนินกิจกรรมของโครงการ (Process Evaluation)
กิจกรรม | ระยะเวลา | เป้าหมาย/วิธีการ | ผลการดำเนินงาน | ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข | |||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ตามแผน | ปฏิบัติจริง | ||
โมดูล (Module) 1 การสร้างนวัตกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 4 พ.ย. 2566 |
|
|
|
|
|
|
โมดูล (Module) 2 การจัดการโปรแกรมควบคุมลำดับขั้นผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 18 พ.ย. 2566 |
|
|
|
|
|
|
โมดูล (Module) 3 การจัดการคุณภาพการซ่อมบำรุงในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 14 ธ.ค. 2566 |
|
|
|
|
|
|
โมดูล (Module) 4 การพัฒนาบุคลากรในการจัดการ IATF 16949: 2016 เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 17 ก.พ. 2567 |
|
|
|
|
|
|
โมดูล (Module) 5 การจัดการองค์กรการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน (Sustainable) | 2 มี.ค. 2567 |
|
|
|
|
|
|
การเสวนาแนวโน้มของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ | 4 พ.ย. 2566 | 4 พ.ย. 2566 |
|
ขั้นตอนการดำเนินงานในการจัดเสวนาเกี่ยวกับการพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV Auto parts) มีราละเอียด ดังนี้ 1) การวางแผนเบื้องต้น ประกอบด้วย 1.1) กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของเสวนา 1.2) ระบุหัวข้อหลักที่ต้องการนำเสนอในเสวนา (เช่น ทิศทางการพัฒนา ข้อเสนอเชิงนโยบาย การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร) 2) การจัดการและประสานงาน ประกอบด้วย 2.1) จัดตั้งทีมงานเพื่อรับผิดชอบการจัดเสวนา 2.2) ติดต่อและเชิญวิทยากรจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสถาบันการศึกษา 3) การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ ประกอบด้วย 3.1) ประชาสัมพันธ์หลักสูตร: ใช้ช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และการส่งจดหมายเชิญเพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตร 3.2) รับลงทะเบียนผู้เข้าร่วม: จัดระบบการลงทะเบียนเพื่อรวบรวมข้อมูลผู้เข้าร่วมและจัดการจำนวนผู้เข้าร่วมให้เหมาะสม 4) การเตรียมสถานที่และอุปกรณ์ ประกอบด้วย 4.1) เลือกสถานที่: เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการจัดฝึกอบรม เช่น โรงแรม ดุสิต ปริ้นเซส ศรีนครินทร์ 4.2) เตรียมอุปกรณ์: จัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการฝึกอบรม เช่น โปรเจคเตอร์ ไมโครโฟน ระบบเสียง และวัสดุการเรียนการสอน 5) การตำเนินการฝึกอบรม ประกอบด้วย 5.1) การเปิดงาน: จัดพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยเชิญวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำตัวและบรรยายเกี่ยวกับเนื้อหาของหลักสูตร 5.2) การบรรยายและเสวนา: จัดการบรรยายและการเสวนาตามหัวข้อที่กำหนด โดยให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการถามตอบและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น 5.3) การศึกษาดูงาน: นำผู้เข้าร่วมไปศึกษาดูงานในสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ประสบการณ์จริงในอุตสาหกรรม 6) การสรุปและประเมินผล ประกอบด้วย 6.1) สรุปผลการฝึกอบรม: รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วม เพื่อนำมาสรุปผลการฝึกอบรม 7) การติดตามผล ประกอบด้วย 7.1) ดทำรายงานสรุป: จัดทำรายงานสรุปผลการฝึกอบรมและนำเสนอให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรในอนาคต |
|
#ผลผลิต (Output) มีรายละเอียด ดังนี้ 1) การได้รับข้อมูลและแนวทางใหม่สำหรับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ประกอบด้วย 1.1) ข้อมูลและแนวทางในการปรับตัวตามนโยบายใหม่ และ 1.2 ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่สอดคล้องกับเป้าหมายการลดคาร์บอนและการพัฒนาที่ยั่งยืน 2) การได้รับข้อเสนอและแนวทางการพัฒนาหลักสูตรและนโยบายการฝึกอบรมสำหรับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ประกอบด้วย 2.1) ข้อเสนอที่ชัดเจนในการพัฒนาหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ 2.2 แนวทางในการพัฒนานโยบายการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายอุตสาหกรรม 3) การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ สำหรับพนักงานและวิศวกรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบด้วย 3.1 โอกาสในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ 3.2 การฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม #ผลลัพธ์ (Outcome) มีรายละเอียด ดังนี้ 1) บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ประกอบด้วย 1.1) การปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับนโยบายลดคาร์บอน 1.2 การปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2) หน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ประกอบด้วย 2.1) การพัฒนาหลักสูตรและนโยบายการฝึกอบรมที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 2.2) การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 3) พนักงานและวิศวกรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบด้วย 3.1 การเพิ่มศักยภาพในการทำงานและการปรับตัวในการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ 3.2 การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคต 4) ประเทศไทยสามารถเข้าสู่การเป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในประชาคมอาเซียน ประกอบด้วย 4.1) การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพในด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า และ 4.2) การสนับสนุนเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน ดังนั้น การเสวนานี้จึงไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลและแนวทางในการปรับตัวตามนโยบายใหม่แก่ผู้เข้าร่วม แต่ยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้มีความยั่งยืน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรในด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
สถานการณ์ และแนวโน้มของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศไทย | 9 พ.ย. 2566 | 9 พ.ย. 2566 |
|
การจัดฝึกอบรมหลักสูตร Non-Degree สำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า รุ่นที่ 1 จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08:30 – 17:30 น. ณ ห้อง M506 อาคาร MTEC สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี โดยมีการบรรยายภาพรวมของศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) และฝึกปฏิบัติในหัวข้อ Energy Storage Technology Research Lab, Rail and Modern Transports Research Center, และ Lightweight Engineering Research Team โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา |
|
บุคลากรที่เข้าร่วมได้รับการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ผ่านการฝึกปฏิบัติจริงในห้องปฏิบัติการต่างๆ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ บุคลากรมีความเข้าใจและสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในงานจริง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้ง มีการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ในประเทศและเสริมสร้างเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน |
|
การสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วย Growth Mindset ยกระดับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 15 พ.ย. 2566 | 15 พ.ย. 2566 |
|
การสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วย Growth Mindset ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มต้นด้วยการฝึกอบรมบุคลากรให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็น เน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการจัดเวิร์กช็อปและการฝึกปฏิบัติที่เน้นการปรับปรุงกระบวนการทำงาน บุคลากรจะได้รับการฝึกอบรมในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต นอกจากนี้ยังมีการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและยืดหยุ่น โดยการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย การพัฒนาผู้นำที่สามารถนำพาและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ ผู้นำจะได้รับการฝึกอบรมให้มีทักษะในการสื่อสารและการนำทีม พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้กับทีมงาน การนำ Growth Mindset มาใช้ในการทำงานจะช่วยเสริมสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน |
|
จากการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วย Growth Mindset ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ผลผลิตที่เกิดขึ้นจริงคือบุคลากรที่มีทักษะและความรู้ที่พัฒนาเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต นอกจากนี้ องค์กรยังได้วัฒนธรรมที่เปิดกว้างและยืดหยุ่น โดยมีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และการพัฒนาผู้นำที่มีทักษะในการสื่อสารและการนำทีมที่ดี พร้อมทั้งสร้างแรงจูงใจให้กับทีมงาน ผลลัพธ์ที่ได้คือการเสริมสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ทำให้องค์กรสามารถปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้น การนำ Growth Mindset มาใช้ทำให้บุคลากรมีทักษะเพิ่มขึ้น การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และองค์กรสามารถปรับตัวและเติบโต |
|
การออกแบบตู้ควบคุมระบบ PLC เพื่อการผลิตชิ้นส่วน ยานยนต์ไฟฟ้า | 18 พ.ย. 2566 | 18 พ.ย. 2566 |
|
การออกแบบตู้ควบคุมระบบ PLC สำหรับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นด้วยการกำหนดความต้องการของระบบ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์กระบวนการผลิตและระบุฟังก์ชันที่ต้องการควบคุม จากนั้นเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น PLC, I/O modules, power supplies, และ communication interfaces โดยพิจารณาถึงความสามารถในการรองรับโหลดและการขยายตัวในอนาคต ขั้นตอนต่อไปคือการออกแบบตู้ควบคุมให้มีการจัดวางอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งและบำรุงรักษา หลังจากนั้นจะเป็นการเขียนโปรแกรมสำหรับ PLC โดยโปรแกรมต้องถูกพัฒนาและทดสอบอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สุดท้ายคือการทดสอบระบบทั้งหมดในสถานการณ์จริงเพื่อยืนยันว่าระบบทำงานได้ตามที่ออกแบบและสามารถตอบสนองความต้องการในการผลิตได้อย่างสมบูรณ์ |
|
ผลผลิตที่เกิดจากการออกแบบตู้ควบคุมระบบ PLC สำหรับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าคือระบบควบคุมที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ สามารถจัดการและควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต นอกจากนี้ การออกแบบตู้ควบคุมที่เป็นระเบียบและปลอดภัยยังช่วยให้การติดตั้งและบำรุงรักษาง่ายขึ้น ส่วนผลลัพธ์ที่ได้คือการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูง ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างดี และทำให้กระบวนการผลิตมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ |
|
การปรับปรุงระบบ PLC ด้วย Programming เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 25 พ.ย. 2566 | 25 พ.ย. 2566 |
|
การปรับปรุงระบบ PLC (Programmable Logic Controller) ด้วยการเขียนโปรแกรมเป็นวิธีที่สำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า มีขั้นตอนหลักหลายประการที่ต้องดำเนินการ เริ่มจากการวิเคราะห์กระบวนการผลิตปัจจุบันเพื่อระบุปัญหาและความต้องการในการปรับปรุง จากนั้นทำการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมที่ตรงตามความต้องการเหล่านั้นโดยใช้ภาษาโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับ PLC เมื่อเขียนโปรแกรมเสร็จแล้ว จะต้องทำการทดสอบโปรแกรมในสถานการณ์จำลองเพื่อให้แน่ใจว่าทำงานได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ หลังจากทดสอบแล้วสามารถติดตั้งโปรแกรมลงในระบบ PLC จริงในโรงงาน และทำการปรับแต่งเพิ่มเติมตามความจำเป็น นอกจากนี้ยังต้องบูรณาการระบบ PLC เข้ากับระบบการผลิตอื่นๆ และเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อให้สามารถตรวจสอบและบริหารจัดการกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการตั้งค่าและติดตามการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเพื่อลดการหยุดทำงานที่ไม่คาดคิดและเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ กระบวนการเหล่านี้ช่วยให้การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้ามีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ลดความผิดพลาด และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
การปรับปรุงระบบ PLC ด้วยการเขียนโปรแกรมช่วยให้กระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้ามีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น ผลผลิตที่เกิดขึ้นคือการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีคุณภาพสูง ลดของเสียและความผิดพลาดในกระบวนการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ลดการหยุดทำงานที่ไม่คาดคิด และเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่และความต้องการของลูกค้า |
|
การวางแผนการจัดการซ่อมบำรุงระบบ PLC เชิงพยากรณ์ เพื่อประสิทธิผลของในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 2 ธ.ค. 2566 | 2 ธ.ค. 2566 |
|
การวางแผนการจัดการซ่อมบำรุงระบบ PLC เชิงพยากรณ์เริ่มต้นด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ที่ติดตั้งในระบบ PLC เพื่อตรวจสอบสถานะและประสิทธิภาพการทำงาน ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลโดยใช้เทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อทำนายปัญหาที่อาจเกิดขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ช่วยให้สามารถระบุแนวโน้มและสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงการเกิดปัญหาในอนาคตได้ จากนั้นจะมีการจัดทำแผนซ่อมบำรุงล่วงหน้าตามผลการวิเคราะห์ เพื่อดำเนินการซ่อมบำรุงในเวลาที่เหมาะสมก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นจริง ขั้นตอนนี้รวมถึงการจัดสรรทรัพยากรและกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการซ่อมบำรุง เพื่อลดผลกระทบต่อการผลิตให้น้อยที่สุด สุดท้ายคือการติดตามและปรับปรุงกระบวนการซ่อมบำรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของระบบ ทำให้กระบวนการผลิตดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ |
|
ผลผลิตที่เกิดจากการวางแผนการจัดการซ่อมบำรุงระบบ PLC เชิงพยากรณ์คือระบบที่สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์สถานะการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถทำนายปัญหาและวางแผนการซ่อมบำรุงล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ผลลัพธ์ที่ได้คือการลดเวลาหยุดชะงักในการผลิต เพิ่มความเสถียรและความน่าเชื่อถือของระบบ PLC นอกจากนี้ยังช่วยให้กระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงฉุกเฉินและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ทำให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ดีขึ้นและมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้น |
|
การลดต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าด้วยเครื่องมือและเทคนิคต่างๆ ของลีน (Lean) | 9 ธ.ค. 2566 | 9 ธ.ค. 2566 |
|
การนำหลักการลีน (Lean) มาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นด้วยการกำจัดความสูญเปล่า (Waste) ทุกประเภทในกระบวนการผลิต ซึ่งรวมถึงการลดเวลารอคอย การลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น และการลดปริมาณของเสีย จากนั้นใช้เทคนิค 5S เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นระเบียบ สะอาด และปลอดภัย โดยมีการจัดระเบียบพื้นที่ทำงาน (Sort), จัดเก็บอุปกรณ์อย่างเหมาะสม (Set in order), ทำความสะอาดพื้นที่ (Shine), กำหนดมาตรฐานการทำงาน (Standardize), และรักษาวินัยในการทำงาน (Sustain) ต่อมาจะมีการนำหลักการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Kaizen) มาใช้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทีมงานร่วมกันระดมสมองเพื่อหาวิธีการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการใช้การวิเคราะห์กระบวนการผลิต (Value Stream Mapping) เพื่อระบุและวิเคราะห์ขั้นตอนที่สร้างมูลค่าและขั้นตอนที่ไม่สร้างมูลค่า เพื่อให้สามารถปรับปรุงและกำจัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นได้ ผลลัพธ์คือการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มมูลค่าในกระบวนการผลิต ทำให้การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงขึ้น |
|
ผลผลิตที่เกิดจากการนำหลักการลีนมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าคือการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยสามารถลดเวลารอคอย ลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น และลดปริมาณของเสียได้อย่างมีนัยสำคัญ การใช้เทคนิค 5S ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นระเบียบและปลอดภัย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน การนำหลักการ Kaizen มาใช้ทำให้เกิดการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง และการใช้ Value Stream Mapping ช่วยระบุและกำจัดขั้นตอนที่ไม่สร้างมูลค่า ผลลัพธ์ที่ได้คือการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และเพิ่มมูลค่าในกระบวนการผลิต ทำให้การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้ามีคุณภาพสูงขึ้นและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
การประยุกต์ใช้ การจัดการการซ่อมบำรุงทวีผลแบบลีน (Lean Total Productive Maintenance) รองรับระบบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 16 ธ.ค. 2566 | 16 ธ.ค. 2566 |
|
การประยุกต์ใช้ Lean Total Productive Maintenance (Lean TPM) ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มต้นจากการวิเคราะห์และระบุจุดที่เกิดความสูญเปล่าในกระบวนการบำรุงรักษาเครื่องจักร จากนั้นจัดทำแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและเชิงพยากรณ์เพื่อป้องกันการหยุดชะงักของเครื่องจักร โดยกำหนดตารางการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอและใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรเพื่อคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น การมีส่วนร่วมของพนักงานในทุกระดับเป็นสิ่งสำคัญ โดยการฝึกอบรมและส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาและปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง ในขั้นตอนนี้ พนักงานจะถูกส่งเสริมให้รายงานปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อปรับปรุงการทำงานของเครื่องจักรอย่างมีประสิทธิภาพ การบูรณาการ Lean TPM ยังรวมถึงการตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความสูญเปล่าในทุกขั้นตอน สุดท้าย การทบทวนและปรับปรุงแผนการบำรุงรักษาเป็นประจำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงฉุกเฉิน และเพิ่มความน่าเชื่อถือของกระบวนการผลิต ทำให้สามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและแข่งขันในตลาด |
|
การประยุกต์ใช้ Lean Total Productive Maintenance (Lean TPM) ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าทำให้เกิดผลผลิตที่สำคัญคือการลดความสูญเปล่าในกระบวนการบำรุงรักษาเครื่องจักรและเพิ่มความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงคือการลดเวลาหยุดชะงักของเครื่องจักรอย่างมีนัยสำคัญ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงฉุกเฉิน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของพนักงานในการบำรุงรักษาและการปรับปรุงกระบวนการช่วยเพิ่มความตระหนักและความรับผิดชอบต่อการทำงานของเครื่องจักร ส่งผลให้กระบวนการผลิตมีความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ส่งเสริมให้โรงงานสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน |
|
ทักษะ Entrepreneurship skills กับสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิตต่อความสำเร็จในการพัฒนาระบบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 18 ม.ค. 2567 | 18 ม.ค. 2567 |
|
การฝึกอบรมทักษะด้านการประกอบการและการสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิตเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาระบบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า ทักษะด้านการประกอบการ (Entrepreneurship Skills) เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) การบริหารจัดการทรัพยากร (Resource Management) และการจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ช่วยให้บุคลากรสามารถวางแผนและบริหารทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ การสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิต (Innovative Production) ที่ประกอบด้วยการคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (Advanced Technology) และการปรับปรุงกระบวนการ (Process Improvement) ส่งเสริมให้บุคลากรสามารถคิดค้นและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการพัฒนากระบวนการผลิต การฝึกอบรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังเพิ่มความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้า |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจริงจากการฝึกอบรมทักษะด้านการประกอบการและการสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิต ประกอบด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ บุคลากรสามารถคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตและใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การผลิตมีความรวดเร็วและมีคุณภาพสูงขึ้น องค์กรสามารถลดการสูญเสียทรัพยากรและเพิ่มการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผลลัพธ์ที่สำคัญคือการเพิ่มความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน องค์กรจึงสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมั่นคงและมีความยั่งยืนในระยะยาว |
|
การเพิ่มศักยภาพโดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและมุ่งเน้นด้านคุณภาพและบริการจนได้รับการ รับรองระบบคุณภาพ ISO 9001, ISO/TS 16949 และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ในการพัฒนาองค์กรการผลิตของธุรกิจ บริษัท บนรากฐานการใช้ความคิดสร้างสรรค์ | 1 ก.พ. 2567 | 1 ก.พ. 2567 |
|
การเพิ่มศักยภาพขององค์กรการผลิตในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มจากการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการพัฒนากระบวนการผลิต เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติและเครื่องจักรทันสมัย เพื่อลดความผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการผลิต ต่อมาคือการมุ่งเน้นด้านคุณภาพและบริการ โดยต้องได้รับการรับรองระบบคุณภาพ (ISO 9001) และสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตเป็นไปตามมาตรฐานสากล การส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในกระบวนการผลิตเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ โดยการฝึกอบรมผู้รับการฝึกให้มีทักษะในการคิดเชิงนวัตกรรมและการแก้ปัญหา ซึ่งช่วยในการปรับปรุงกระบวนการและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง การรวมขั้นตอนเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มศักยภาพขององค์กรการผลิตในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วยการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การลดความผิดพลาด และการเพิ่มความเร็วในการผลิตผ่านการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและระบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ การได้รับการรับรองระบบคุณภาพ (ISO 9001) และสิ่งแวดล้อม (ISO 14001) ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความยั่งยืนของกระบวนการผลิต การฝึกอบรมผู้รับการฝึกให้มีทักษะในการคิดเชิงนวัตกรรมและการแก้ปัญหาส่งเสริมการปรับปรุงกระบวนการและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาด และการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้องค์กรสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว |
|
การกำหนดมาตรฐาน IATF 16949: 2016 กับ Core Tools ด้วยการประยุกต์ใช้ระบบบริหารคุณภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์มีประสิทธิภาพ ลดข้อบกพร่อง เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างยั่งยืน | 17 ก.พ. 2567 | 17 ก.พ. 2567 |
|
การประยุกต์ใช้มาตรฐาน IATF 16949:2016 ร่วมกับ Core Tools เริ่มต้นด้วยการฝึกอบรมพนักงาน โดยใช้กรณีศึกษาและการเรียนรู้แบบ Activity Based Learning เพื่อให้เข้าใจข้อกำหนดและการใช้งาน Core Tools จากนั้นมีการอภิปรายกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ต่อมาคือการจัด Workshop เพื่อศึกษาการกำหนดและตีความหมายของข้อกำหนดในระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐาน IATF 16949:2016 พร้อมทั้งการฝึกปฏิบัติงานจริงในองค์กร การดำเนินกิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้พนักงานสามารถนำมาตรฐานและ Core Tools ไปใช้ในการตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถลดข้อบกพร่อง เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจากการประยุกต์ใช้มาตรฐาน IATF 16949:2016 ร่วมกับ Core Tools คือการเพิ่มความรู้และทักษะของพนักงานในการบริหารคุณภาพและการใช้ Core Tools อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กระบวนการผลิตมีการตรวจสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ข้อบกพร่องในกระบวนการผลิตลดลง ความน่าเชื่อถือในผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น และความพึงพอใจของลูกค้าได้รับการปรับปรุงอย่างยั่งยืน องค์กรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงได้อย่างสม่ำเสมอ และสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้นด้วยการบริหารจัดการคุณภาพที่เป็นระบบและมีมาตรฐานระดับสากล |
|
การจัดการมาตรฐานและการพัฒนาบุคลากรเพื่อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน | 2 มี.ค. 2567 | 2 มี.ค. 2567 |
|
การจัดการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มด้วยการนำมาตรฐานสากล เช่น IATF 16949:2016 มาปฏิบัติ โดยมีการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรฐานเป็นประจำ พร้อมทั้งฝึกอบรมพนักงานเพื่อรักษาคุณภาพและความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์สาเหตุของลักษณะข้อบกพร่องและผลกระทบ (FMEA) เริ่มด้วยการระบุและวิเคราะห์ข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไข โดยการทบทวนและปรับปรุงแผน FMEA ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความน่าเชื่อถือของกระบวนการผลิต การบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) เน้นการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับในการปรับปรุงคุณภาพ การสร้างวัฒนธรรมเน้นคุณภาพ และการใช้เครื่องมือและเทคนิคต่างๆ พร้อมฝึกอบรมพนักงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแนวคิด TQM การจัดการโซ่อุปทานยั่งยืนในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเริ่มด้วยการคัดเลือกและจัดการซัพพลายเออร์ที่มีความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม การใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการจัดการและปรับปรุงประสิทธิภาพ การสร้างความร่วมมือในโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืน ส่วนการพัฒนาบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืนเริ่มด้วยการฝึกอบรมทักษะด้านต่างๆ การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และนวัตกรรม การประเมินผลและให้รางวัลเพื่อกระตุ้นให้พนักงานพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในตลาดได้อย่างยั่งยืน |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินกิจกรรมทั้งหมดนี้คือการที่องค์กรสามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงและเชื่อถือได้ โดยการใช้มาตรฐานสากล เช่น IATF 16949:2016 และการวิเคราะห์ FMEA เพื่อลดข้อบกพร่องในกระบวนการผลิต การบริหารคุณภาพโดยรวม (TQM) และการจัดการโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต การพัฒนาบุคลากรผ่านการฝึกอบรมและการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ช่วยให้พนักงานมีทักษะและความรู้ที่ทันสมัย องค์กรจึงสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสามารถแข่งขันในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว |
|
การสร้างประสบการณ์ด้วย Production Technology and Industry ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ | 14 มี.ค. 2567 | 14 มี.ค. 2567 |
|
การสร้างประสบการณ์ด้วยเทคโนโลยีการผลิตและอุตสาหกรรมเริ่มต้นด้วยการบรรยายโดยใช้กรณีศึกษา, Activity Based Learning เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจและสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ จากนั้นมีการอภิปรายกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จริงในการนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิต การฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับทักษะในการพัฒนาบุคลากรและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในโครงการจริง ผลลัพธ์ที่ได้คือการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ทำให้กระบวนการผลิตมีความยั่งยืนและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจากการสร้างประสบการณ์ด้วยเทคโนโลยีการผลิตและอุตสาหกรรมคือผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยผ่านการบรรยายด้วยกรณีศึกษา, Activity Based Learning, การอภิปรายกลุ่ม และการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์คือการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการผลิต ทำให้กระบวนการผลิตมีความยั่งยืน และองค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
การสร้างความสามารถในการคิด จัดทำการนำเสนอ และการนำเสนองานในที่สาธารณะ (public speaking) | 23 มี.ค. 2567 | 23 มี.ค. 2567 |
|
การพัฒนาทักษะการคิด การจัดทำการนำเสนอ และการนำเสนองานในที่สาธารณะเริ่มต้นด้วยการใช้ Project Based Learning โดยให้ผู้เข้าร่วมดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์เนื้อหา จากนั้นให้ผู้เข้าร่วมทำการนำเสนอผลงานต่อผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ การรับฟังข้อเสนอแนะเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถปรับปรุงและพัฒนาทักษะการนำเสนอได้อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้คือผู้เข้าร่วมมีความมั่นใจในการนำเสนอข้อมูลและแนวคิดอย่างชัดเจนและน่าสนใจ ส่งผลให้การทำงานและการสื่อสารในองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาทักษะการคิด การจัดทำการนำเสนอ และการนำเสนองานในที่สาธารณะคือผู้เข้าร่วมมีความสามารถในการวิเคราะห์และสร้างสรรค์เนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำเสนอผลงานต่อผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับข้อเสนอแนะที่มีคุณค่า นำไปปรับปรุงและพัฒนาทักษะการนำเสนอได้อย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์คือผู้เข้าร่วมมีความมั่นใจในการนำเสนอข้อมูลและแนวคิดอย่างชัดเจนและน่าสนใจ ทำให้การสื่อสารและการทำงานในองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถตอบสนองต่อความต้องการและเป้าหมายขององค์กรได้อย่างเหมาะสม |
|
การเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน และหลักสูตรพัฒนาบุคลากรด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า | 30 มี.ค. 2567 | 30 มี.ค. 2567 |
|
การเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและหลักสูตรพัฒนาบุคลากรเริ่มด้วยการสรุปและยกย่องความสำเร็จของผู้เข้าร่วมหลักสูตร โดยจัดกิจกรรม Dialogue เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้แบ่งปันประสบการณ์และเรียนรู้จากกันและกัน กิจกรรมนี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสื่อสารเป้าหมายต่อไปขององค์กรและสร้างความเข้าใจร่วมกันในวิสัยทัศน์และภารกิจที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต การปิดโปรแกรมฝึกอบรมอย่างเป็นทางการนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและแรงจูงใจให้กับผู้เข้าร่วมในการนำทักษะและความรู้ที่ได้รับไปพัฒนางานในองค์กรอย่างยั่งยืน |
|
ผลผลิต (Output) และผลลัพธ์ (Outcome) ที่เกิดขึ้นจากการเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานด้านการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและหลักสูตรพัฒนาบุคลากร คือผู้เข้าร่วมได้รับการยอมรับและยกย่องในความสำเร็จ พร้อมทั้งมีโอกาสแบ่งปันประสบการณ์และเรียนรู้จากกันและกันในกิจกรรม Dialogue ผลลัพธ์ที่ได้คือผู้เข้าร่วมมีแรงบันดาลใจและความมั่นใจในการนำความรู้และทักษะที่ได้รับไปปรับใช้ในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ การสื่อสารเป้าหมายและวิสัยทัศน์ขององค์กรช่วยสร้างความเข้าใจร่วมกันและสนับสนุนการพัฒนางานในอนาคต ทำให้องค์กรสามารถตอบสนองต่อความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า |
|