การพัฒนามนุษย์ด้วยพุทธปัญญา (หลักสูตร Non-Degree)
แบบการวิเคราะห์และการสังเคราะห์ปัจจัยกำหนดความสำเร็จของโครงการ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคน กลุ่มคน เครือข่าย (เช่น มีความรู้ มีทักษะ มีความชำนาญ มีศักยภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น)
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า รายละเอียด หลักฐาน แนวทางการพัฒนาต่อ
ผู้เข้ารับการอบรมมีจิตใจมั่นคง พฤติกรรมที่สังเกตได้กับผู้เข้าอบรมคือ การเป็นคนคิดรอบคอบมากขึ้น ไม่ด่วนตัดสินใจ ควบคุมความโกรธของตนเองได้มากขึ้น เป็นคนมีอารมณ์ไม่อ่อนไหวหงุดหงิด
ผู้เข้าอบรมเกิดการเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงมากขึ้น โดยพฤติกรรมที่สังเกตได้โดยคณะวิทยากร และผู้เข้าอบรม คือ การที่พี่เจี๊ยบรวมทั้งรับฟังจากเพื่อนๆที่เข้าอบรม ทำให้ทราบว่า พี่หนึ่ง มีการเปลี่ยนตนเองไป “เท่าที่รู้จักพี่หนึ่งมา พี่หนึ่งเป็นคนในร้อน ปากตรงกับใจ แกมักบ่นเรื่องนี้บ่อยๆ พี่ว่าพี่หนึ่งเปลี่ยนไปมากนะเรื่องนี้เท่าที่พี่เห็น” ซึ่งสอดคล้องกับคำบอกกล่าวของพี่หนึ่งเอง ว่า "สิ่งที่ได้ไปปรับใช้คือ การนำไปใช้กับครอบครัว ลูกและสามีเห็นว่า ตัวพี่มีการเปลี่ยนแปลง คำพูดจากที่ดูจิกกัด ก็เพลาๆ ลง คำพูดที่พูดไปแสดงออกถึงความเข้าอกเข้าใจคนในครอบครัวมากขึ้น จนสามีพี่รับรู้ได้ว่าพี่เปลี่ยน นี่พูดจริงๆ กกรณีหนึ่งคือ พี่อ้อ บอกว่า ทำให้เรารู้ว่า
ตัวเราก็สร้างความเปราะบางให้กับคนใกล้ชิดเรามาก กับคนข้างนอกเราดีหมด กับคนในบ้านเราก็มักจะไม่แคร์ ความเกรงใจของเราก็น้อย รู้จักความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงของตนเองมากขึ้น และจะพูดอะไร หรือทำอะไร เราจะคิดก่อน ว่ามันจะส่งผลกระทบกับคนอื่นอย่างไร เหมือนตะปูที่ตอกไปแล้วมันก็เป็นรูเป็นรอย เอาไปปรับใช้ กับชีวิตจริง ผลที่เกิดขึ้น ก็ดีขึ้น เรานิ่งขึ้น พอเค้าจะแรงเค้าก็เบาลง และพี่หนุ่ย กล่าวว่า สิ่งที่เอาไปใช้ คือ รับฟัง ไม่ตัดสิน ไม่แนะนำ เสนอทางเลือก ทำให้เราได้มองตัวเอง เวลาเกิดปัญหาเราใช้วิธีการทำอย่างไร ระวังมากขึ้นไม่ดิ่งกับความคิดของตัวเอง มีสติในการหยุดคิดก่อน ทำที่ตัวเองก่อน....เราเปลี่ยน เช่น เราพูดสวนกลับ พอเรานิ่ง คนรอบข้างเปลี่ยน ความสัมพันธ์มันดีขึ้นมาก
และนอกจากนี้เรื่องของการคิดรอบคอบมากขึ้น ก็ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น จากการได้สัมภาษณ์ พี่มายด์ พบว่า เมื่อก่อนหนูทำงานส่งไป มักจะโดนดุ และก็จะมีปัญหาเรื่องความคิดและอารมณ์ของตัวเอง แต่พอมาเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ทำให้หนูมีสติมากขึ้น พอมีสติมากขึ้น งานที่ทำก็ผิดพลาดลดลง พอผิดพลาดลดลง ก็ไม่โดนดุ หนูว่าหนูมีสติมากขึ้นเยอะคะ
ผลกระทบ
นอกจากผู้เข้ารับการอบรมจะเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นคนมีจิตใจมั่นคงมากขึ้นแล้ว พี่อึ่งยังนำไปใช้ที่ทำงานกรมบัญชีกลาง โดยได้ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมให้ลูกน้องในที่ทำงานด้วยวิธีการ
ให้ผู้ผ่านการอบรมนำเอาความรู้ และผลลัพธ์ที่เกิดจากการอบรมไปขยายผลในครอบครัวและที่ทำงานของตนเองเพื่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง
ผู้เข้ารับการอบรมควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ มีพฤติกรรมที่สังเกตได้ คือ เมื่อเจอสถานการณ์ก็มีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ด่วนตัดสินใจ
การเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีขึ้น โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมอบรม ได้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงตนเอง ดังนี้ พี่หลอง สะท้อนว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้มา ทำให้เราหนักแน่นขึ้นมาก มีการทบทวนก่อนที่จะทำอะไรลงไป จากที่เราเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว ก็เป็นมากขึ้น .....ลูกน้องชมเลย เมื่อก่อน เวลาลูกน้องพูดพี่จะสวนกลับ แต่เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นว่าพูดช้าลง คิดมากขึ้น” ส่วน ประเด็นคิดช้าลง เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงของพี่หนึ่งอีกคนหนึ่ง “การคิดแบบแยกองค์ประกอบ ทำให้เราหยุดคิดก่อน คิดแบบใช้เหตุผลทำให้เราใจเย็นขึ้น ช้าลง การมีเพื่อนที่ดี กัลยาณมิตร คนที่เราคบมันส่งเสริมเรา มีพี่ ๆ เพื่อนๆ ที่ดี เรามีกัลยาณมิตร เป็นวิธีคิดแบบมีเหตุผล มีสติ”
ผู้เข้าอบรมลดอัตตาได้โดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (ปรับตัวอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสมดุล) พฤติกรรมที่สังเกตได้ คือ มีความเสียสละ มีน้ำใจ มีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น
มีน้ำใจ จากการสังเกต พี่อึ่งตอนเข้ามาใหม่ๆ ค่อนข้างจะตั้งกำแพงสูง พูดน้อย และวางตัวไม่ค่อยสัมพันธ์กับคนอื่น แต่เมื่อผ่านไป 5 สัปดาห์ พี่อึ่งก็เริ่มเปลี่ยน ทั้งการถอดหน้ากากร่วมอบรม และแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และจากการบอกเล่าจากพี่มะลิเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมว่า ตอนมาเรียนแรกๆ พี่อึ่งไม่ค่อยพูดคุย อาจเป็นเพราะพี่เค้าเป็นผู้ใหญ่ เราเข้าไปคุยก็ไม่ค่อนคุยด้วย แต่หลังจากเรียนไปแล้วประมาณ 5 สัปดาห์ พี่อึ่งก็พูดคุยกับเพื่อนๆ มากขึ้น ทำให้บรรยากาศในการเรียน และการทานข้าวสนุกมากขึ้น นอกจากนี้พี่อึ่งยังทำอาหาร และขนมมาเลี้ยงเพื่อนๆ เป็นระยะๆ ด้วย มีขนมคุกกี้ หมี่คลุก น้ำพรั๊นซ์ จากคำบอกเล่าของพี่หนึ่งว่า พี่เห็นพี่อึ่งเอาขนม เอาอาหารมา พี่ก็เลยเอามาบ้าง พี่เอาปลาส้มกำนันจุลมาให้เพื่อนๆ ทาน
นอกจากนี้ พี่ยศ ในวันที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี รถบัสออกเดินทางตั้งแต่เช้า ทำให้พี่ๆ หลายคนที่ไม่มีรถเดินทางลำบาก พี่ยศ ก็อาสาไปรับเพื่อนๆ ตามทางผ่าน แม้ว่ามันจะไม่ได้ผ่านโดยตรงแต่ก็มีน้ำใจจะผ่านไปรับให้ ซึ่งพี่เจี๊ยบกับพี่หนึ่งได้สะท้อนให้ฟังว่า พี่ยศต้องวนมารับพี่ๆ ทั้ง 2 คน บ้านพี่ยศอยู่ดอนเมือง แต่ก็โฉบเข้ามาที่ท่าน้ำนนท์เพื่อมารับพี่เจี๊ยบแล้วก็ผ่านไปรับพี่หนึ่ง เพื่อมาขึ้นรถบัสที่วิทยาลัยสงฆ์
เสียสละ
หลังจากที่เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมถอดบทเรียน “การสร้างคนเสียสละ” ผู้เข้าอบรมได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรวบรวมสิ่งของไปบริจาคที่วัดสวนแก้วหลายครั้ง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นจากการริเริ่มร่วมมือของผู้เข้าร่วมอบรมเอง
ภาวะผู้/ผู้นำ
ผู้เข้าอบรมเกิดการเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนที่มีภาวะผู้นำ โดยพฤติกรรมที่สังเกตได้โดยคณะวิทยากร คือ การที่พี่มะลิ รวมทั้งรับฟังจากเพื่อนๆที่เข้าอบรม ทำให้ทราบว่า พี่มาลี มีการเปลี่ยนตนเองไปจากเดิมที่เป็นแค่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมธรรมดา ไม่ได้มีการแสดงออกในลักษณะที่เป็นผู้นำสักเท่าไหร่ แต่เมื่อได้เข้าอบรมมาสักระยะหนึ่งจะเห็นท่าทีของพี่มาลีเปลี่ยนไป ดูมีความมั่นใจ และมีความเอมั่นในตนเองและพร้อมจะเป็นผู้นำเพื่อนๆ และได้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์พี่มะลิ กล่าวว่า “พี่มาลีเป็นคนที่เป็นผู้นำ เห็นได้ชัดในคราวที่เดินทางไปปฏิบัติธรรม พี่มาลีก็มาก่อน ตรงเวลามากๆ และก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพวกเรา และที่สำคัญวันที่เราเดินขึ้นเขา เราไม่คิดว่าพี่มาลีจะขึ้น เพราะมันชันและสูงมาก และที่สำคัญร้อนมากๆ ด้วย แต่พี่มาลีก็เป็นตัวตั้งตัวตี ในการที่จะเดินขึ้นเขาทำให้พวกเรามีโอกาสขึ้นไปไหว้พระธาตุบนเขา ส่วนพี่หลอง ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พวกเราได้เห็นภาวะผู้นำของพี่เค้า วันที่เรานั่งเรือไปที่อุโบสถใต้น้ำ ตอนที่นั่งเรือ พี่เค้าก็มีความรู้เรื่องสถานที่ที่นี่ ก็แนะนำว่ามีอะไรบ้างและเวลาขึ้นลงเรือ ก็ช่วยพวกเราให้ได้รับความสะดวดสบายตอนขึ้น และลงเรือ จะเห็นได้จากพฤติกรรมไม่โกรธง่ายเหมือนเมื่อก่อน โดยพี่มะลิ เล่าว่า เมื่อก่อนเป็นคนโกรธง่าย ขี้หงุดหงิด ชอบคิดว่าทำไมเป็นแบบนี้ แต่เมื่อมีเรียนกับที่หลักสูตร มะลิก็เปลี่ยนไปโกรธน้อยลง ไม่ค่อยหงุดหงิด ชอบนึกว่า พูดไปไม่ได้อะไรไม่พูดดีกว่า (ยับยั้งชั่งใจ) เพราะเรารู้มากกว่าเค้า เพราะเรามาอบรมที่นี่ และที่เปลี่ยนไปก็คือเรื่องความปล่อยวาง นี่พี่เปลี่ยนไปจริงๆ
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดนโยบาย เกิดข้อตกลงชุมชน เกิดมาตรการทางสังคม)
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า รายละเอียด หลักฐาน แนวทางการพัฒนาต่อ
การเปลี่ยนกลไก และกระบวนการในชุมชนที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดกลุ่ม ชมรม เครือข่าย เกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม)
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า รายละเอียด หลักฐาน แนวทางการพัฒนาต่อ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับคน กลุ่มคน เครือข่าย (เช่น มีความรู้ มีทักษะ มีความชำนาญ มีศักยภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น) |
|||
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า | รายละเอียด | หลักฐาน | แนวทางการพัฒนาต่อ |
---|---|---|---|
ผู้เข้ารับการอบรมมีจิตใจมั่นคง พฤติกรรมที่สังเกตได้กับผู้เข้าอบรมคือ การเป็นคนคิดรอบคอบมากขึ้น ไม่ด่วนตัดสินใจ ควบคุมความโกรธของตนเองได้มากขึ้น เป็นคนมีอารมณ์ไม่อ่อนไหวหงุดหงิด |
ผู้เข้าอบรมเกิดการเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนที่มีจิตใจมั่นคงมากขึ้น โดยพฤติกรรมที่สังเกตได้โดยคณะวิทยากร และผู้เข้าอบรม คือ การที่พี่เจี๊ยบรวมทั้งรับฟังจากเพื่อนๆที่เข้าอบรม ทำให้ทราบว่า พี่หนึ่ง มีการเปลี่ยนตนเองไป “เท่าที่รู้จักพี่หนึ่งมา พี่หนึ่งเป็นคนในร้อน ปากตรงกับใจ แกมักบ่นเรื่องนี้บ่อยๆ พี่ว่าพี่หนึ่งเปลี่ยนไปมากนะเรื่องนี้เท่าที่พี่เห็น” ซึ่งสอดคล้องกับคำบอกกล่าวของพี่หนึ่งเอง ว่า "สิ่งที่ได้ไปปรับใช้คือ การนำไปใช้กับครอบครัว ลูกและสามีเห็นว่า ตัวพี่มีการเปลี่ยนแปลง คำพูดจากที่ดูจิกกัด ก็เพลาๆ ลง คำพูดที่พูดไปแสดงออกถึงความเข้าอกเข้าใจคนในครอบครัวมากขึ้น จนสามีพี่รับรู้ได้ว่าพี่เปลี่ยน นี่พูดจริงๆ กกรณีหนึ่งคือ พี่อ้อ บอกว่า ทำให้เรารู้ว่า |
|
ให้ผู้ผ่านการอบรมนำเอาความรู้ และผลลัพธ์ที่เกิดจากการอบรมไปขยายผลในครอบครัวและที่ทำงานของตนเองเพื่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง |
ผู้เข้ารับการอบรมควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ มีพฤติกรรมที่สังเกตได้ คือ เมื่อเจอสถานการณ์ก็มีความยับยั้งชั่งใจ ไม่ด่วนตัดสินใจ |
การเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีขึ้น โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จากการสัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมอบรม ได้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงตนเอง ดังนี้ พี่หลอง สะท้อนว่า “สิ่งที่ได้เรียนรู้มา ทำให้เราหนักแน่นขึ้นมาก มีการทบทวนก่อนที่จะทำอะไรลงไป จากที่เราเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว ก็เป็นมากขึ้น .....ลูกน้องชมเลย เมื่อก่อน เวลาลูกน้องพูดพี่จะสวนกลับ แต่เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นว่าพูดช้าลง คิดมากขึ้น” ส่วน ประเด็นคิดช้าลง เห็นได้จากการเปลี่ยนแปลงของพี่หนึ่งอีกคนหนึ่ง “การคิดแบบแยกองค์ประกอบ ทำให้เราหยุดคิดก่อน คิดแบบใช้เหตุผลทำให้เราใจเย็นขึ้น ช้าลง การมีเพื่อนที่ดี กัลยาณมิตร คนที่เราคบมันส่งเสริมเรา มีพี่ ๆ เพื่อนๆ ที่ดี เรามีกัลยาณมิตร เป็นวิธีคิดแบบมีเหตุผล มีสติ” |
|
|
ผู้เข้าอบรมลดอัตตาได้โดยไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง (ปรับตัวอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างสมดุล) พฤติกรรมที่สังเกตได้ คือ มีความเสียสละ มีน้ำใจ มีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น |
มีน้ำใจ จากการสังเกต พี่อึ่งตอนเข้ามาใหม่ๆ ค่อนข้างจะตั้งกำแพงสูง พูดน้อย และวางตัวไม่ค่อยสัมพันธ์กับคนอื่น แต่เมื่อผ่านไป 5 สัปดาห์ พี่อึ่งก็เริ่มเปลี่ยน ทั้งการถอดหน้ากากร่วมอบรม และแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และจากการบอกเล่าจากพี่มะลิเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมว่า ตอนมาเรียนแรกๆ พี่อึ่งไม่ค่อยพูดคุย อาจเป็นเพราะพี่เค้าเป็นผู้ใหญ่ เราเข้าไปคุยก็ไม่ค่อนคุยด้วย แต่หลังจากเรียนไปแล้วประมาณ 5 สัปดาห์ พี่อึ่งก็พูดคุยกับเพื่อนๆ มากขึ้น ทำให้บรรยากาศในการเรียน และการทานข้าวสนุกมากขึ้น นอกจากนี้พี่อึ่งยังทำอาหาร และขนมมาเลี้ยงเพื่อนๆ เป็นระยะๆ ด้วย มีขนมคุกกี้ หมี่คลุก น้ำพรั๊นซ์ จากคำบอกเล่าของพี่หนึ่งว่า พี่เห็นพี่อึ่งเอาขนม เอาอาหารมา พี่ก็เลยเอามาบ้าง พี่เอาปลาส้มกำนันจุลมาให้เพื่อนๆ ทาน
นอกจากนี้ พี่ยศ ในวันที่ต้องเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี รถบัสออกเดินทางตั้งแต่เช้า ทำให้พี่ๆ หลายคนที่ไม่มีรถเดินทางลำบาก พี่ยศ ก็อาสาไปรับเพื่อนๆ ตามทางผ่าน แม้ว่ามันจะไม่ได้ผ่านโดยตรงแต่ก็มีน้ำใจจะผ่านไปรับให้ ซึ่งพี่เจี๊ยบกับพี่หนึ่งได้สะท้อนให้ฟังว่า พี่ยศต้องวนมารับพี่ๆ ทั้ง 2 คน บ้านพี่ยศอยู่ดอนเมือง แต่ก็โฉบเข้ามาที่ท่าน้ำนนท์เพื่อมารับพี่เจี๊ยบแล้วก็ผ่านไปรับพี่หนึ่ง เพื่อมาขึ้นรถบัสที่วิทยาลัยสงฆ์ |
|
|
การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดนโยบาย เกิดข้อตกลงชุมชน เกิดมาตรการทางสังคม) |
|||
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า | รายละเอียด | หลักฐาน | แนวทางการพัฒนาต่อ |
การเปลี่ยนกลไก และกระบวนการในชุมชนที่เอื้อต่อผลสัมฤทธิ์ของโครงการ (เช่น เกิดกลุ่ม ชมรม เครือข่าย เกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม) |
|||
การเปลี่ยนแปลงทั้งที่คาดการณ์ไว้และไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า | รายละเอียด | หลักฐาน | แนวทางการพัฒนาต่อ |