ยกระดับสมรรถนะและศักยภาพของผู้ดูแลเด็กปฐมวัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็ก กรุงเทพมหานคร (หลักสูตร Non-Degree)
กระบวนการวัดความก้าวหน้าของผลลัพธ์การเรียนรู้ ดำเนินการตามกระบวนการ PDCA เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) ของหลักสูตร ดังนี้
Plan ประชุมวางแผนการสอนในรายวิชาตามโครงสร้างหลักสูตร โดยกำหนดระยะเวลาการสอน ปรับรูปแบบกระบวนการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 การประเมินผลความรู้ ทักษะจากการปฏิบัติ และเจตคติในการเรียนตลอดหลักสูตร
Do ประธานรายวิชาประชุมวางแผนการสอนกับอาจารย์ร่วมสอนในแต่ละหัวข้อโดยให้สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร โดย
1. ด้านความรู้
หลักสูตรกำหนดให้ทุกหัวข้อของรายวิชาที่เรียนมีการประเมินก่อน–หลังการเรียนรู้ด้วยข้อสอบpre-post test มีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ (multiple choice) จำนวน 20 ข้อทุกหัวข้อที่เรียน ในกรณีของผู้เรียนบางคนที่ป่วยเนื่องจากการติดเชื้อโควิด 19 และขาดเรียนในบางหัวข้อ หลักสูตรได้เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ด้วยตนเองและทบทวนการเรียนรู้ที่ผ่านมาของแต่ละหัวข้อด้วยการให้ผู้เรียนเข้าไปเปิดดูวิดิโอการสอน สื่อพาวเวอร์พอยต์และไฟล์เนื้อหาความรู้ที่เกี่ยวข้องโดยใช้ระบบ Google Classroom หลักสูตรจึงสามารถติดตามและประเมินความก้าวหน้าของผลลัพธ์การเรียนรู้ในแต่ละหัวข้อที่เรียนได้อย่างต่อเนื่อง
2. ด้านทักษะการปฏิบัติ
หลักสูตรกำหนดให้ทุกรายวิชาของการเรียนมีงานที่มอบหมายให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม มีการนิเทศการปฏิบัติงานโดยอาจารย์นิเทศก์ประจำศูนย์และอาจารย์ในหลักสูตร และกำหนดให้มีการติดตามผลการฝึกปฏิบัติงานในชั้นเรียน โดยให้ผู้เรียนรายงานกระบวนการฝึกปฏิบัติและผลงานที่ได้จากการปฏิบัติตามหัวข้อที่เรียนด้วยวาจาและวิดิโอคลิปในรูปแบบออนไลน์
Check ประธานหลักสูตร อาจารย์หลักสูตรและอาจารย์นิเทศก์ประจำศูนย์พัฒนาเด็กประชุมร่วมกันเพื่อติดตามและพิจารณาผลการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาและผลการฝึกปฏิบัติในการจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็กปฐมวัย
Act นำผลการประชุมการประเมินผลการจัดการเรียนการสอน และผลงานจากการฝึกปฏิบัติ เสนอต่อคณะกรรมการพร้อมทั้งนำข้อเสนอแนะต่างๆไปใช้ในการปรับปรุงดำเนินการครั้งต่อไป
การจัดการศึกษาครั้งนี้ ผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learning Outcomes) เป็นไปตามหลักสูตรการฝึกอบรม โดยผู้รับการอบรมสามารถ “ทำ” “คิด” และมี “คุณลักษณะ” ครอบคลุมในด้านความรู้ ทักษะการปฏิบัติและด้านทัศนคติและคุณธรรม ดังนี้
ด้านความรู้
1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและจรรยาบรรณเกี่ยวกับเด็กปฐมวัย
2. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักพัฒนาการ การเจริญเติบโตและการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
3. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางกายที่พบบ่อย
4. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินพัฒนาการเพื่อเฝ้าระวังและคัดกรอง
5. มีความรู้ความเข้าใจการส่งเสริมสุขภาวะทางกายด้านการจัดโภชนาการ
6. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาวะและสมรรถนะทางร่างกายของเด็กปฐมวัย
7. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะและสมรรถนะทาง
ร่างกายของเด็กปฐมวัย
8. มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมและแก้ปัญหาต่างๆของเด็กปฐมวัยให
สอดคล้องกันได้อย่างเหมาะสม
9. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารออนไลน์
ด้านทัศนคติและจริยธรรม
1. มีทัศนะคติที่ดีต่อการดูแลและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
2. มีทัศนะคติที่ดีต่อการดูแล การวางแผน การส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็กปฐมวัย
3. มีทัศนคติที่ดีต่อการการดูแลเด็กปฐมวัยที่มีความเจ็บป่วย คัดกรองปัญหาสุขภาวะทางกาย
และความเจ็บป่วยของเด็กปฐมวัย
4. มีทัศนคติที่ดีต่อการประเมินเพื่อการพัฒนาเด็กปฐมวัย
5. มีทัศนะคติที่ดีต่อการส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็กปฐมวัย
6. มีทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงานในวิชาชีพ และต่อการปฏิบัติงานในศูนย์พัฒนาเด็ก
7. มีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง เพิ่มความมั่นใจในการให้นำความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติงานให้ตรงตาม
เป้าหมายที่ศูนย์พัฒนาเด็กวางแผน
8. มีทัศนคติที่ดีต่อการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารออนไลน์ในการแสวงหาความรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง
ด้านทักษะการปฏิบัติงาน
1. มีทักษะการดูแลพฤติกรรมด้านสุขภาวะทางกายของเด็กปฐมวัย
2. มีทักษะในด้านการประเมินพัฒนาการของเด็กปฐมวัยการใช้เครื่องมือ DSPM
3. มีทักษะในการออกแบบกิจกรรมต่างๆ ทั้งด้านการเคลื่อนไหว การร้องเพลง การเล่นดนตรี
4. มีทักษะการช่วยชีวิตเด็กเบื้องต้น
5. มีทักษะในการออกแบบกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะและสมรรถนะสำหรับเด็กปฐมวัยได้อย่างเหมาะสม
6. มีทักษะในการจัดทำโครงการส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็ก
7. มีทักษะการทำงานเป็นทีมแบ่งงานให้ทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานที่มอบหมาย
8. มีทักษะในการบริหารเวลาจัดการในการทำงาน
9. มีทักษะในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารออนไลน์