Home Page
ค้นหา&แผนที่
ข่าวประชาสัมพันธ์
แผนที่นำทางใหม่ สำหรับอุดมศึกษาไทย
@3 พ.ย. 64 17:23
แผนที่นำทางใหม่ สำหรับอุดมศึกษาไทย
3158 views | read more »
การประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการผลิต บัณฑิตพันธ์ใหม่ (15 พย.65)
@3 พ.ย. 64 17:15
ชม วีดีโอย้อนหลัง การประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการผลิต บัณฑิตพันธ์ใหม่ (15 พย.65)การชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ปี พ.ศ. 2565เปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบาย เรื่อง โบัณฑิตพันธุ์ใหม่กับการผลิตกำลังคนหลังวิกฤตการณ์โควิด-19โ
3986 views | read more »
กิจกรรม
ชมวีดีโอย้อนหลัง การอบรม การใช้งาน ระบบ online เพื่อเสนอโครงการหลักสูตรฯ ขอรับทุนสนับสนุนจาก สป.อว.
@13 พ.ย. 64 12:38
.-primary .title { display:none !important; }#primary .nav.-page{ display:none; }ชมวีดีโอ ย้อนหลัง งานประชุม/อบรม การใช้งาน ระบบ online เพื่อเสนอโครงการหลักสูตรฯ ขอรับทุนสนับสนุนจาก สป.อว.วันที่ 24 พย 2564 ช่วงเช้า - สำหรับมหาวิทยาลัย ที่ได้รับงบประมาณและได้ดำเนินการแล้วใ
8330 views | read more »
มัลติมีเดีย
การประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการผลิต บัณฑิตพันธ์ใหม่ (15 พย.65)
@3 พ.ย. 64 17:15
ชม วีดีโอย้อนหลัง การประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการผลิต บัณฑิตพันธ์ใหม่ (15 พย.65)การชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ ปี พ.ศ. 2565เปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบาย เรื่อง โบัณฑิตพันธุ์ใหม่กับการผลิตกำลังคนหลังวิกฤตการณ์โควิด-19โ
3986 views | read more »
การดำเนินกิจกรรมโครงการ
นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ
การสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ และการสร้างตารางสินค้า : การสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เป็นส่วนสำคัญในการขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายทั้งในโลกดิจิทัลและในโลกจริง โดยการผสมผสานกลยุทธ์ออนไลน์และออฟไลน์จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในหลายช่องทาง และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ 1. การสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์ การตลาดออนไลน์เป็นการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ตเพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งสามารถสร้างความสะดวกสบายและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 2. การสร้างช่องทางการตลาดออฟไลน์ การตลาดออฟไลน์ยังคงเป็นส่วนสำคัญในการเข้าถึงลูกค้าในตลาดที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเน้นการโปรโมทสินค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง - การจัดกิจกรรมทางการตลาด (Event Marketing) การจัดกิจกรรม เช่น การเปิดตัวสินค้าใหม่, งานแสดงสินค้าหรือการจัดโปรโมชั่นในสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน เช่น การให้ลองสินค้าหรือรับของสมนาคุณ - การโฆษณาผ่านสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) โฆษณาทางโทรทัศน์และวิทยุ: ใช้สื่อทีวีหรือวิทยุในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง - ป้ายโฆษณาและบิลบอร์ด: การใช้ป้ายโฆษณาภายนอก เช่น ป้ายบิลบอร์ดในทำเลที่มีผู้คนผ่านไปมา เช่น หน้าอาคารห้างสรรพสินค้า หรือบนถนน โฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสาร: สื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นช่องทางที่ดีในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ชอบอ่าน - การตลาดผ่านผู้ค้าปลีก (Retail Marketing) การนำผลิตภัณฑ์ไปวางขายในร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นและเลือกซื้อ การจัดโปรโมชั่นพิเศษในร้านค้าหรือการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น “ซื้อ 1 แถม 1” หรือ “ลดราคา” - การใช้พนักงานขาย (Sales Representatives) การใช้พนักงานขายที่มีประสบการณ์และทักษะในการเสนอขายสินค้าและบริการให้กับลูกค้าตามความต้องการ การส่งเสริมการขายโดยการติดต่อกับลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ หรือการทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายสินค้ารายอื่น - การโปรโมทผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีความสัมพันธ์ (Product Placement) การวางสินค้าหรือบริการในสถานที่ที่มีลูกค้าเข้าถึง เช่น การวางผลิตภัณฑ์ในร้านค้าหรือในกิจกรรมที่มีลูกค้าเข้าร่วม 3. การผสมผสานช่องทางการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ การใช้กลยุทธ์ออนไลน์และออฟไลน์ร่วมกันจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั้งในโลกดิจิทัลและในโลกจริง และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การสร้างการตระหนักรู้: การทำการตลาดออนไลน์เพื่อสร้างการตระหนักรู้ในกลุ่มลูกค้าก่อน จากนั้นทำการตลาดออฟไลน์ เช่น การจัดกิจกรรมหรือการใช้ป้ายโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขาย การสร้างความภักดีของลูกค้า: การใช้การตลาดออนไลน์ เช่น การส่งอีเมล์หรือโปรโมชันผ่านโซเชียลมีเดีย ร่วมกับการจัดกิจกรรมในร้านหรือการให้ส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์ การเพิ่มช่องทางการจำหน่าย: ใช้การตลาดออนไลน์เพื่อสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์ และนำลูกค้าไปยังช่องทางการจำหน่ายออฟไลน์ เช่น ร้านค้า หรือการใช้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีการชำระเงินที่สะดวก ในส่วนการสร้างตารางสินค้าเป็นกระบวนการในการออกแบบและสร้างโครงสร้างข้อมูลที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในฐานข้อมูล โดยตารางสินค้าจะถูกออกแบบให้สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าทุกประเภทที่ธุรกิจต้องการจัดเก็บ เช่น ชื่อสินค้า, รหัสสินค้า, ราคา, จำนวนในสต็อก, หมวดหมู่สินค้า, และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อการจัดการสินค้าภายในระบบท โดยตารางสินค้ามักจะเป็นส่วนหนึ่งของฐานข้อมูลที่ใช้ในการ จัดการสินค้า ในระบบ เช่น ระบบการขาย (Point of Sale System), ระบบสต็อกสินค้า, หรือ ระบบการจัดการคลังสินค้า โดยจะทำการบันทึกและจัดการข้อมูลสินค้าในรูปแบบที่สามารถค้นหา, เพิ่ม, แก้ไข, และลบข้อมูลได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการจัด Workshop การคำนวณต้นทุนและจุดคุ้มทุน การสร้างเพจในการจำหน่ายสินค้า 1. ผู้เรียนสามารถการเข้าใจต้นทุนและจุดคุ้มทุน 2. ผู้เรียนสามารถตั้งราคาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 3. ผู้เรียนสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างชัดเจน 4. ผู้เรียนสามารถสร้างเพจในการจำหน่ายสินค้าได้ด้วยตนเอง 5. มีทักษะในการทำการตลาดออนไลน์ 6. สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการขาย@01 พ.ค. 68 16:17นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ
การทำแผนธุรกิจสำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูง BMC : BMC (Business Model Canvas) หรือ แผนผังโมเดลธุรกิจ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบและวิเคราะห์โมเดลธุรกิจ โดยช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจในรูปแบบที่กระชับและเข้าใจง่าย โมเดลธุรกิจนี้ถูกพัฒนาโดย Alexander Osterwalder และมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในหลายองค์กรเพื่อช่วยในการวางแผนธุรกิจหรือปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ การใช้ Brand Management Canvas (BMC) ช่วยให้สามารถระบุและวางแผนทุกองค์ประกอบของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน โดยเริ่มจากการระบุจุดประสงค์และวิสัยทัศน์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การออกแบบแบรนด์ไม่เพียงแต่เน้นที่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้งานแบรนด์ อีกทั้งในการตั้งชื่อแบรนด์จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมของแบรนด์ในแง่มุมต่างๆ และทำให้การตั้งชื่อแบรนด์เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายของแบรนด์ ซึ่งชื่อแบรนด์ไม่เพียงแต่ควรสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังต้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างยั่งยืน. ส่วนประกอบของ Brand Management Canvas (BMC) การออกแบบแบรนด์สามารถเริ่มต้นได้จากการสร้าง BMC ซึ่งประกอบด้วย 9 องค์ประกอบหลักที่ช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนแบรนด์: 1. Brand Purpose (จุดประสงค์ของแบรนด์) อธิบายเหตุผลที่แบรนด์นี้มีอยู่หรือมีความหมายต่อผู้บริโภค จุดประสงค์คือแรงจูงใจที่แบรนด์มีความตั้งใจทำธุรกิจ ตัวอย่างเช่น "เพื่อทำให้ชีวิตของผู้คนสะดวกสบายยิ่งขึ้น" 2. Brand Vision (วิสัยทัศน์ของแบรนด์) วิสัยทัศน์คือภาพในอนาคตที่แบรนด์ต้องการเห็น เช่น การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม หรือการเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า 3. Brand Mission (พันธกิจของแบรนด์) พันธกิจของแบรนด์คือลักษณะการทำงานหรือการดำเนินการในปัจจุบันเพื่อไปสู่วิสัยทัศน์ในอนาคต เช่น การให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า หรือการทำงานกับพันธมิตรในการขยายแบรนด์ 4. Brand Values (ค่านิยมของแบรนด์) ค่านิยมคือหลักการที่แบรนด์ยึดถือในการทำงาน เช่น ความโปร่งใส, ความน่าเชื่อถือ, ความสร้างสรรค์ หรือความรับผิดชอบต่อสังคม 5. Target Audience (กลุ่มเป้าหมาย) กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คือกลุ่มลูกค้าที่แบรนด์ต้องการเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์ เช่น กลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่มีอายุ 25-40 ปี หรือกลุ่มลูกค้าที่ยึดติดกับสุขภาพ 6. Brand Personality (บุคลิกภาพของแบรนด์) บุคลิกภาพของแบรนด์จะทำให้แบรนด์ของคุณมีความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น แบรนด์ที่ดูสนุกสนาน, เป็นมิตร, จริงจัง, หรือหรูหรา 7. Brand Positioning (ตำแหน่งของแบรนด์) การกำหนดตำแหน่งของแบรนด์ในตลาดหมายถึงการตัดสินใจว่าแบรนด์จะอยู่ในตลาดไหน และแบรนด์จะมีลักษณะเฉพาะอย่างไรที่แตกต่างจากคู่แข่ง 8. Brand Experience (ประสบการณ์ของแบรนด์) การออกแบบประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับจากแบรนด์ในทุกจุดสัมผัส เช่น เว็บไซต์, การบริการลูกค้า, หรือประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ 9. Brand Identity (อัตลักษณ์ของแบรนด์) อัตลักษณ์แบรนด์คือสัญลักษณ์, สี, รูปแบบ, ฟอนต์ และสิ่งที่สร้างความจดจำในตัวแบรนด์ เช่น โลโก้, สีที่ใช้ในงานออกแบบ หรือสไตล์การสื่อสาร ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการจัด Workshop การออกแบบแบรนด์ผลิตภัณฑ์ 1. ผู้เรียนเข้าใจทิศทางและกลยุทธ์ของแบรนด์ อย่างชัดเจน 2. ผู้เรียนสามารถสร้างบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย 3. ผู้เรียนสามารถออกแบบประสบการณ์ลูกค้าที่ดี และให้ความสำคัญกับทุกจุดสัมผัสของแบรนด์ 4. ผู้เรียนพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ 5. เพิ่มการรับรู้และการจดจำของแบรนด์ ในตลาด 6. ทดสอบแบรนด์ในตลาดจริง เพื่อให้มั่นใจว่าแบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้@01 พ.ค. 68 16:08นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ
การจัดการอาหารสัตว์ในการผลิตสัตว์เนื้อคุณภาพสูง : การจัดการอาหารสัตว์ในการผลิตสัตว์เนื้อคุณภาพดี เน้นการเรียนการสอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะในการจัดการอาหารสัตว์ โดยมีวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลักโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับโคและแพะในการผลิตเนื้อคุณภาพดี เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางแผนการให้อาหารสัตว์ที่สอดคล้องกับความต้องการทางโภชนาการในแต่ละช่วงอายุและสถานะการผลิต และเพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัติการในการจัดการและประเมินคุณภาพอาหารสัตว์ ในเนื้อหาในส่วนทฤษฎี เช่น พื้นฐานโภชนาการสัตว์ ด้านองค์ประกอบของอาหารสัตว์: คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ ความต้องการทางโภชนาการของโคและแพะในช่วงการเติบโตและการผลิตเนื้อ ระบบการย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้องและการเปลี่ยนแปลงอาหารเป็นพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาในส่วนทฤษฎีคือ 1. การคัดเลือกและการเตรียมวัตถุดิบอาหารสัตว์ - การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เช่น หญ้าแห้ง ข้าวโพดบด มันสำปะหลัง และกากถั่วเหลือง - การใช้แหล่งอาหารท้องถิ่น เช่น การนำเศษเหลือจากการเกษตร (เช่น เปลือกทุเรียน) มาผสมในอาหารสัตว์ - การประเมินคุณค่าทางโภชนาการของวัตถุดิบ 2. การปรุงและการจัดเก็บอาหารสัตว์ - การผสมอาหารแบบ Total Mixed Ration (TMR) เพื่อความสมดุลทางโภชนาการ - การเก็บรักษาอาหารสัตว์ เช่น การทำหญ้าหมัก (Silage) และการป้องกันเชื้อราในอาหาร 3. การวางแผนการให้อาหารสัตว์ - การคำนวณสูตรอาหารตามความต้องการของสัตว์ในแต่ละช่วงอายุ - การวางแผนการให้อาหารในรูปแบบประจำวันและระยะยาว - ผลกระทบของโภชนาการต่อคุณภาพเนื้อ เช่น การเพิ่มระดับไขมันแทรกเนื้อ (Marbling) ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง 1. ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักโภชนาการสัตว์และสามารถนำไปใช้ได้จริง 2. ผู้เรียนสามารถวางแผนและปรับปรุงสูตรอาหารสัตว์ให้เหมาะสมกับการผลิตเนื้อคุณภาพดี 3. ผู้เรียนสามารถจัดการอาหารสัตว์ในฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุน 4. ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม@01 พ.ค. 68 15:48นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ
การจัดการอาหารสัตว์ในการผลิตสัตว์เนื้อคุณภาพสูง : การจัดการอาหารสัตว์ในการผลิตสัตว์เนื้อคุณภาพดี เน้นการเรียนการสอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะในการจัดการอาหารสัตว์ โดยมีวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลักโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับโคและแพะในการผลิตเนื้อคุณภาพดี เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางแผนการให้อาหารสัตว์ที่สอดคล้องกับความต้องการทางโภชนาการในแต่ละช่วงอายุและสถานะการผลิต และเพื่อพัฒนาทักษะปฏิบัติการในการจัดการและประเมินคุณภาพอาหารสัตว์ ในเนื้อหาในส่วนทฤษฎี เช่น พื้นฐานโภชนาการสัตว์ ด้านองค์ประกอบของอาหารสัตว์: คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ ความต้องการทางโภชนาการของโคและแพะในช่วงการเติบโตและการผลิตเนื้อ ระบบการย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้องและการเปลี่ยนแปลงอาหารเป็นพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาในส่วนทฤษฎีคือ 1. การคัดเลือกและการเตรียมวัตถุดิบอาหารสัตว์ - การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เช่น หญ้าแห้ง ข้าวโพดบด มันสำปะหลัง และกากถั่วเหลือง - การใช้แหล่งอาหารท้องถิ่น เช่น การนำเศษเหลือจากการเกษตร (เช่น เปลือกทุเรียน) มาผสมในอาหารสัตว์ - การประเมินคุณค่าทางโภชนาการของวัตถุดิบ 2. การปรุงและการจัดเก็บอาหารสัตว์ - การผสมอาหารแบบ Total Mixed Ration (TMR) เพื่อความสมดุลทางโภชนาการ - การเก็บรักษาอาหารสัตว์ เช่น การทำหญ้าหมัก (Silage) และการป้องกันเชื้อราในอาหาร 3. การวางแผนการให้อาหารสัตว์ - การคำนวณสูตรอาหารตามความต้องการของสัตว์ในแต่ละช่วงอายุ - การวางแผนการให้อาหารในรูปแบบประจำวันและระยะยาว - ผลกระทบของโภชนาการต่อคุณภาพเนื้อ เช่น การเพิ่มระดับไขมันแทรกเนื้อ (Marbling) ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง 1. ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักโภชนาการสัตว์และสามารถนำไปใช้ได้จริง 2. ผู้เรียนสามารถวางแผนและปรับปรุงสูตรอาหารสัตว์ให้เหมาะสมกับการผลิตเนื้อคุณภาพดี 3. ผู้เรียนสามารถจัดการอาหารสัตว์ในฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดต้นทุน 4. ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม@01 พ.ค. 68 15:45นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ
การคัดเลือกลักษณะและพันธุกรรมของโคและแพะที่สามารถผลิตเนื้อคุณภาพดี : การคัดเลือกลักษณะและพันุกรรมของโคและแพะที่สามารถผลิตเนื้อคุณภาพดี เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการด้านพันธุศาสตร์และลักษณะทางกายภาพที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเนื้อคุณภาพดีในโคและแพะ และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถคัดเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับการผลิตเนื้อในบริบทของสภาพภูมิศาสตร์และตลาด นอกจากนั้นเพื่อพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติในการประเมินและคัดเลือกลักษณะพันธุกรรมและกายภาพของสัตว์ โดยมีเนื้อหาเนื้อหาหลักในส่วนทฤษฎี 1 พื้นฐานพันธุศาสตร์และพันธุกรรมสัตว์ เช่น ความเข้าใจเกี่ยวกับยีนและลักษณะเด่น-ลักษณะด้อยในสายพันธุ์โคและแพะ ความสัมพันธ์ระหว่างพันธุกรรมกับคุณภาพเนื้อ เช่น การเติบโตเร็ว (Growth Rate) การสะสมไขมันระหว่างกล้ามเนื้อ (Marbling) ความนุ่มของเนื้อ (Tenderness) 2 ลักษณะสำคัญสำหรับการผลิตเนื้อคุณภาพดี เช่น ลักษณะกายภาพที่พึงประสงค์ เช่น โครงสร้างร่างกาย (Body Conformation) ความสมบูรณ์ของกล้ามเนื้อ (Muscle Mass) ความหนาแน่นและปริมาณไขมันในเนื้อ (Fat Density) พฤติกรรมและสุขภาพที่ส่งผลต่อคุณภาพเนื้อ เช่น อัตราการกินอาหาร (Feed Conversion Ratio) และความต้านทานโรค 3 การปรับปรุงพันธุกรรม (Genetic Improvement) เช่น การคัดเลือกสายพันธุ์โคและแพะในพื้นที่ การใช้เทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์ เช่น การตรวจสอบดีเอ็นเอ (DNA Testing) และการผสมเทียม (Artificial Insemination) 4 ปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพเนื้อจากพันธุกรรมสู่การเลี้ยงดู เช่น การเลี้ยงดูที่เหมาะสมกับสายพันธุ์ และ ผลกระทบของสิ่งแวดล้อมและอาหารต่อการแสดงออกของลักษณะพันธุกรรม ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการคัดเลือกลักษณะและพันุกรรมของโคและแพะ 1. ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะทางพันธุกรรมที่มีผลต่อคุณภาพของเนื้อ เช่น ลักษณะของมวลกล้ามเนื้อ, การสะสมไขมัน, ความสามารถในการเจริญเติบโต, และความสามารถในการใช้พลังงานจากอาหาร 2. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปใช้ในการคัดเลือกโคและแพะที่มีลักษณะทางพันธุกรรมที่ดี เช่น โคที่มีเนื้อแดงมากและมีมวลกล้ามเนื้อหนา หรือแพะที่มีไขมันแทรกในเนื้อที่ทำให้รสชาติเนื้อดี 3. ผู้เรียนเข้าใจเทคนิคการเพาะพันธุ์ที่สามารถใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ให้มีลักษณะตามต้องการ 4. ผู้เรียนเข้าใจการจัดการอาหารที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อสัตว์ โดยจะได้เรียนรู้ถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของเนื้อ 5. ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของโคและแพะจะช่วยให้นักเรียนสามารถทำให้สัตว์เติบโตได้ดีและมีสุขภาพที่ดี@01 พ.ค. 68 15:32นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคและแพะคุณภาพสูงเพื่อการประกอบการ
การจัดการสุขภาพสัตว์ : การจัดการสุขภาพสัตว์เป็นกระบวนการที่สำคัญในการดูแลและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในสัตว์ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการผลิตและคุณภาพของเนื้อสัตว์ โดยมีหลักการและขั้นตอนที่สำคัญ 1. การป้องกันโรค การฉีดวัคซีน การให้วัคซีนป้องกันโรคที่สำคัญ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ในสัตว์, โรคคอบิด เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้สัตว์ติดเชื้อหรือโรคที่สามารถแพร่ระบาดในฝูงได้ การป้องกันการติดเชื้อจากสัตว์ที่เข้ามาใหม่โดยการกักสัตว์ใหม่ไว้แยกจากฝูงหลักระยะหนึ่งเพื่อตรวจสุขภาพ 2. การตรวจสุขภาพ การตรวจสภาพร่างกายประจำ ตรวจสุขภาพสัตว์อย่างสม่ำเสมอ โดยการตรวจดูพฤติกรรมและสภาพร่างกาย เช่น น้ำหนัก, สภาพขน, สภาพปาก และตา อีกทั้งยังมีการตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อหรือปัญหาทางสุขภาพสัตว์ และจะต้องมีการตรวจสอบโรคที่อาจเกิดขึ้น เช่น การตรวจหาภาวะติดเชื้อในทางเดินหายใจหรือทางเดินอาหาร 3. การดูแลโภชนาการ การให้สารอาหารที่เหมาะสม: อาหารที่เหมาะสมและสมดุลเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพสัตว์ โดยต้องให้สารอาหารที่ครบถ้วน เช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, วิตามิน, และแร่ธาตุต่าง ๆ น้ำสะอาดตลอดเวลา เป็นการสนับสนุนให้สัตว์เจริญเติบโตและสุขภาพดี 4. การควบคุมสภาพแวดล้อม (Environmental Control) การจัดการที่อยู่อาศัย: โรงเรือนต้องมีการระบายอากาศที่ดี มีความสะอาด ปราศจากเชื้อโรคและพยาธิ ควรทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนเลี้ยงสัตว์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่มาจากสิ่งแวดล้อม และจะต้องมีการจัดการสัตว์ไม่ให้เกิดความเครียดเกินไป เช่น การจัดการพื้นที่ให้สัตว์มีความสะดวกสบาย อีกทั้งการใช้ยาและเวชภัณฑ์ที่ปลอดภัยในสัตว์ต้องปฏิบัติตามหลักการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการสะสมสารตกค้างในเนื้อสัตว์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค การเลือกยาอย่างเหมาะสม การใช้ยาในขนาดและระยะเวลาที่ถูกต้อง การเก็บรักษายาอย่างถูกวิธี รวมถึงการปฏิบัติตามระยะเวลาหยุดยาจะช่วยให้การใช้ยาในสัตว์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ@01 พ.ค. 68 15:23